วันนี้ เวลา 08.30 น. ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้นางเฉิน ลี่ฟาง (Ms. Chen Lifang) รองประธานอาวุโส บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี จำกัด (Huawei Techonologies Co., Ltd.) เข้าเยี่ยมคารวะ ก่อนเป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาและนิทรรศการนานาชาติ เพื่อเปิดตัวส่งเสริมและสร้างความตระหนักเรื่อง ดิจิทัล ไทยแลนด์ โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือ ทั้งนี้ พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชม หัวเว่ย ที่เลือกให้ไทยเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่และศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของภูมิภาค และสนใจขยายความร่วมมือการพัฒนาระบบสื่อสารดิจิทัลในไทย ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันการขับเคลื่อนประเทศด้วยเศรษฐกิจดิจิทัล ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 เพราะจะต้องมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อประโยชน์ในมิติต่างๆ ทั้งการส่งเสริมการศึกษา การพัฒนาการเกษตร และการค้าและการบริการ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจะต้องมีความรอบคอบทั้งแง่กฎหมายและความปลอดภัย เพื่อมิให้การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างปัญหาอื่นๆ ตามมา โอกาสนี้ รองประธานอาวุโส บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี จำกัด กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยว่า บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการดำเนินงาน ในภูมิภาคอาเซียนทั้งการวางแผน การวิจัยและพัฒนา และ ร่วมส่งเสริมและพัฒนาระบบ Broadband และ Data Center ในไทย โดยร่วมมือกับหน่วยงานของไทยในการพัฒนาบุคลากรและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งสำนักงานในไทย จะเป็นทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาและศูนย์แสดงนวตกรรมและสัมมนา ซึ่งจะมีผู้ให้ความสนใจทั่วโลกเดินทางมาประชุมและศึกษาดูงานของบริษัทฯ ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 5 ปี ของการดำเนินงานบริษัท ได้มีขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง จากบุคลากร 1,200 คนปัจจุบันมีพนักงาน 1,900 คน และใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างภายในประเทศไปแล้วกว่า 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในปีหน้า บริษัทฯ ได้จัดสรรงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างปีหน้าสูงถึง 180 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ รองประธานอาวุโส บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี จำกัด กล่าวในตอนท้ายว่า จากการเข้าพบหารือกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ยิ่งเชื่อมั่นในนโยบายและมาตรการของรัฐบาลในการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและพร้อมที่สนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ Start-up ของไทยอย่างเต็มที่ด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th