นายกรัฐมนตรี มอบโล่รางวัลองค์กรชาวนาที่ได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2559 พร้อมมอบนโยบายประชารัฐเพื่อความก้าวหน้าเกษตรไทยต่อไป

ข่าวทั่วไป Thursday June 2, 2016 15:56 —สำนักโฆษก

วันนี้ (31 พ.ค. 59) เวลา 10.20 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบโล่รางวัลให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติโดย พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว นำตัวแทนองค์กรชาวนาที่ได้รับรางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2559 พร้อมด้วยชาวนารุ่นใหม่ จำนวน 300 คน เข้ารับโล่รางวัลและเยี่ยมคารวะ นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงความสำคัญของข้าวในฐานะที่เป็นพืชอาหารหลักและมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นแหล่งก่อเกิดวัฒนธรรมประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวกับข้าวและชาวนามาอย่างยาวนาน เพื่อเชิดชูเกียรติและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ชาวนาซึ่งเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของชาติ โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันข้าวและวันชาวแห่งชาติ โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบโล่รางวัลแก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2559 จำนวน 4 สาขา ได้แก่ เกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพทำนา กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวดีเด่น ศูนย์ส่งเสริมและผลิตภัณฑ์ข้าวชุมชนดีเด่นประเภทข้าวหอมมะลิ และศูนย์ส่งเสริมและผลิตภัณฑ์ข้าวชุมชนดีเด่นประเภทข้าวอื่น ๆ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวมอบโอวาทตอนหนึ่งว่า เกษตรกรชาวนามีความสำคัญมาอย่างยาวนาน เพราะชาวนาคือ “กระดูกสันหลังของชาติ” ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ ทรงรับสั่งเสมอมา ว่า ให้ดูแลชาวนาอย่างดีที่สุด พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งเกษตรกรไทยแต่อย่างใด รัฐบาลจะต้องดูแลกลุ่มคนเหล่านี้อย่างดีที่สุด

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลมีมาตรการสร้างความเข้มแข็งให้ชาวนาในการเพาะปลูกพืช ส่งเสริมการเพาะปลูกเพื่อสร้างรายได้ให้ชาวนามาโดยตลอด แต่เพื่อเกิดประสิทธิผลสูงสุด ชาวนาเองจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำการเกษตรกรรม แนวทางการเพาะปลูก พร้อมรับมือวิกฤตสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น และปรับเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส เพื่อจะแก้ปัญหาราคาผลผลิตในตลาด

ซึ่งที่ผ่านมา เกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนตัวเองตามวิกฤตสถานการณ์มาโดยตลอด ยอมรับว่าเกษตรกรมีความอดทนสูง นับว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แต่ตอนนี้ปัญหาต่าง ๆ ที่สะสมจากอดีตที่ผ่านมานั้นมีมากมาย รัฐบาลจึงขอความร่วมมือ ชาวนาเกษตรกรไทยร่วมกันทำความร่วมมือกันด้านการเกษตร ไม่แบ่งแยกประเภท ต้องร่วมมือกันช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทุกเรื่อง เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทั้งในเรื่องการเพาะปลูกพืช เพาะเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด และจะต้องมีการรวมกลุ่มกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ กำหนดเป้าหมายปัญหาอย่างชัดเจน ส่งข้อเสนอมาถึงรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลเข้าดูแลตรงจุดโดยเร็ว เพื่อความเร่งด่วนรวดเร็วในบูราณาการอย่างเป็นประชารัฐ และเพื่อพัฒนาการเกษตรของประเทศไทยต่อไป

ส่วนเรื่องของการดำเนินงานของรัฐบาลที่ผ่านมา เพื่อช่วยเกษตรกร รัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ แหล่งการจ้างงาน ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ และจะทำให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อส่งเสริมเพิ่มนวัตกรรมใหม่ ๆ เทคโนโลยีต่าง ๆ ให้ชาวนาเกษตรกร ให้เป็น Smart Famer ช่วยเหลือชาวนาได้เรียนรู้เพิ่มเติม ปรับเปลี่ยนวิธีการทำการเกษตรโดยใช้เทคโนโลยีอย่างเช่น Agi-Map ปรับเปลี่ยนวิธีการเพาะปลูก รู้จักเปลี่ยนแปลงการทำการเกษตรไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของโลก นั่นก็เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเอง และยกระดับคุณภาพชีวิตของครอบครัวชาวนาให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเรื่องการบูรณาการจัดการน้ำ ซึ่งพัฒนาสำเร็จแล้วไปได้ 40% ทั่วประเทศ ทั้งหมดนี้ประชานชน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และข้าราชการจะต้องร่วมมือการส่งเสริมซึ่งกันและกันร่วมกับรัฐบาล เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ชี้แจงปัญหาต่าง ๆ ในการทำงาน เสนอกับรัฐบาล แล้วรัฐบาลก็จะเข้ามาดูแลตรงจุดนั้นอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุดอย่างรวดเร็ว ดำเนินการให้ได้มากที่สุด การพัฒนาทางด้านเกษตรของประเทศไทย ร่วมมือกันเป็นประชารัฐซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาให้สำเร็จได้อย่าง มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

ทั้งนี้ การดำเนินการทั้งหมดของรัฐบาลกำลังทำ ต้องการให้เกษตรกรเข้าใจถึงวิธีการทำงานตามขั้นตอน ต้องใช้ระยะเวลาบูรณาการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด และต้องกระจายอำนาจการทำงานให้ทั่วถึง เพื่ออนาคตประเทศไทยจะไม่เกิดปัญหาเหล่านี้อีก เพื่อการปฏิรูปประเทศอย่างสมบูรณ์ ตามแผนยุทธศาสตร์ด้านเกษตรกรรม 20 ปีข้างหน้า ได้อย่าง เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา

โดยในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้ร่วมมือกันของประชาชนทุกคน ทั้งชาวนาเกษตรกร เจ้าหน้าที่ราชการว่า ต้องการให้รู้รักสามัคคีซึ่งกันและกัน ลดความขัดแย้ง ลดความอคติทางการเมือง ร่วมกันบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบ รัฐบาลก็จะเข้าไปส่งเสริมสนับสนุนอีกทางหนึ่ง เดินหน้าการพัฒนาร่วมกันอย่างดีที่สุด ร่วมกันทำเป็นประชารัฐ สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล ช่วยเหลือพึ่งพากัน ผลักดัน เพื่อเกิดผลสัมฤทธิ์ที่สุดโดยเร็ว ข้าราชการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ปกครองตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการ อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ควรร่วมมือกันดูแลเกษตรกรชาวนาเหล่านี้ นึกถึงประโยชน์ของชาวนาต่อประเทศไทย ที่ทำการเกษตรปลูกข้าวเรา เพื่อเป็นกำลังหลักสำคัญของประเทศต่อไปในวันข้างหน้า

พร้อมกับกล่าวอวยพรให้ชาวนาเกษตรกรไทย ขอให้ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีกำลังใจ กำลังกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ เป็นกำลังในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมไทยให้มีความเจริญก้าวอย่างยั่งยืนหน้าสืบไป

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ