พลตรีวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอกวิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมเอเชีย-ยุโรป (Asia-Europe Meeting :ASEM) ครั้งที่ 11 ณ กรุงอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ระหว่างวันที่ 14-16 กรกฎาคม 2559
วัตถุประสงค์ของการประชุม ASEM มีเพื่อกระชับความสัมพันธ์ ขยายความร่วมมือ และเสริมสร้างความเข้าใจอันดีของทั้งสองภูมิภาคผ่านการประชุม กิจกรรมและโครงการต่างๆ ในทุกระดับ ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน โดยมีความร่วมมือครอบคลุมในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการศึกษา ASEM เป็นกรอบความร่วมมือระดับผู้นำกรอบเดียวระหว่างภูมิภาคเอเชียและยุโรปในขณะนี้ มีสมาชิก 51 ประเทศ และ 2 องค์กร คือ สหภาพยุโรปและสำนักเลขาธิการอาเซียน การประชุม ASEM 11 ครั้งนี้ จะตรงกับการครบรอบ 20 ปีของการก่อตั้งอาเซม ซึ่งก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการโดยการประชุมสุดยอดอาเซม ครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1-2 มีนาคม 2539 มองโกเลียจึงกำหนดหัวข้อหลักการประชุมว่า “20 Years of ASEM: Partnership for the Future Through Connectivity”
ทั้งนี้ การเข้าร่วมการประชุม ASEM 11 เป็นการเข้าร่วมการประชุม ASEM ครั้งที่ 2 ของนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีเคยเข้าร่วมการประชุม ASEM 10 ที่นครมิลาน อิตาลี เมื่อเดือนตุลาคม 2557 สำหรับกิจกรรมสำคัญการประชุม ASEM 11 ได้แก่
(1) พิธีเปิด
(2) การพบกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอาเซม ได้แก่ รัฐสภา ภาคธุรกิจ เยาวชน และภาคประชาสังคม
(3) การประชุมเต็มคณะ 2 วาระ ได้แก่ วาระที่1 หัวข้อ Two Decades of Partnership: Taking Stock and Looking Ahead และ วาระที่ 2 หัวข้อ Promoting ASEM Partnership for Greater Connectivity
(4) กิจกรรมทางวัฒนธรรมและงานเลี้ยงอาหารค่ำ
(5) การประชุมอย่างไม่เป็นทางการ หัวข้อ Enhancing the Three Pillars of ASEM และ
(6) การหารือทวิภาคีระหว่างการประชุม
(1) แถลงการณ์ประธาน (Chair’s Statement) ซึ่งเป็นสรุปผลการหารือของผู้นำ และแสดงถึงความมุ่งมั่นของสมาชิกASEMในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเอเชียกับยุโรปในด้านต่างๆ อาทิ การพัฒนาอย่างยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การส่งเสริมความเชื่อมโยง ความมั่นคงทางทะเล และ
(2) ปฏิญญาอูลานบาตอร์ (Ulaanbaatar Declaration) ซึ่งมองโกเลียได้จัดทำขึ้นเป็นพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีของการก่อตั้งASEM โดยเน้นย้ำถึงความสำเร็จที่ผ่านมา รวมทั้งระบุวิสัยทัศน์ในทศวรรษที่ 3 ได้แก่ (1) เสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ความเป็นหุ้นส่วน (2) ส่งเสริมความร่วมมือให้เกิดประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม (3) ส่งเสริมความเชื่อมโยง และ (4) การปรับปรุงกระบวนการทำงานของASEM รวมทั้งจะกำหนดให้วันที่ 1 มีนาคมของทุกปีเป็นวันASEM เพื่อส่งเสริมความตระหนักรู้เกี่ยวกับASEMในหมู่สาธารณชนในทุกๆ ปี
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะใช้โอกาสนี้กล่าวถ้อยแถลงเพื่อแสดงท่าทีของไทยต่อประเด็นระหว่างประเทศที่สำคัญ สร้างความเชื่อมั่น และส่งเสริมบทบาทไทยในเวทีพหุภาคี พร้อมผลักดันประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญ อาทิ การส่งเสริมความเชื่อมโยง การพัฒนาอย่างยั่งยืน และความอยู่ดีกินดีของประชาชน รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเอเชียกับยุโรปในการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ อาทิ การค้ามนุษย์ และการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ โดยไทยจะเสนอจัดการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางเพื่อส่งเสริมด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน
กำหนดการของนายกรัฐมนตรีในการเข้าร่วมประชุมเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 11
วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม 2559
10.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปยังกรุงอูลานบาตอร์ มองโกเลีย ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) 18.10 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเจ็งกิส ข่าน (Chinggis Khaan International Airport)
กรุงอูลานบาตอร์ มองโกเลีย (เวลาที่กรุงอูลานบาตอร์เร็วกว่าเวลาที่กรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง)
วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม 2559
10.30 น. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมผู้นาเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 11 10.45 น. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการพบกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอาเซม ประกอบด้วย รัฐสภา ภาคธุรกิจ เยาวชน และภาคประชาสังคม 11.00 น. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมเต็มคณะ ช่วงที่ 1 (First Plenary Session)
ในหัวข้อ “Two Decades of Partnership: Taking Stock and Looking Ahead”
13.00 น. นายซักเคีย แอลแบคดอร์จ ประธานาธิบดีมองโกเลีย เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารกลางวัน (Social Lunch) แก่ผู้นาที่เข้าร่วมการประชุมฯ 14.10 น. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมเต็มคณะ ช่วงที่ 2 (Second Plenary Session) และกล่าวถ้อยแถลง
ในหัวข้อ “Promoting ASEM Partnership for Greater Connectivity”
16.00 น. นายกรัฐมนตรีถ่ายภาพหมู่ร่วมกับผู้นาที่เข้าร่วมการประชุมฯ (Family Photo)
นายกรัฐมนตรีเดินทางออกจากโรงแรมแชงกรี-ลา ไปยัง Chinggisiin Khuree Complex เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม ชมการแสดงการแข่งขันกีฬาพื้นเมืองของมองโกเลีย (Nomadic Festival-Naadam)
18.30 น. ประธานาธิบดีมองโกเลียเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่าเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำ วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม 2559 09.10 น. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ (Retreat Session) ในหัวข้อ “Enhancing the three pillars of ASEM” เที่ยง นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมพิธีปิดการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 11 13.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางออกจากมองโกเลียกลับระเทศไทย 17.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางถึงประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6)
ที่มา: http://www.thaigov.go.th