พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปฉีกทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติที่ติดไว้บริเวณศาลาประจำหมู่บ้านใน จ.กำแพงเพชร ว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิดทันที ส่วน มท. ได้สั่งการให้ทางจังหวัดประสานงานกับ กกต. ในฐานะเจ้าของบัญชีรายชื่อเพื่อแจ้งความกับตำรวจ โดยคาดว่าจะได้ตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีเร็ว ๆ นี้
"ท่านนายกฯ รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และอยากเตือนสติสังคมให้ระมัดระวังการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย และไม่หลงเชื่อผู้ที่ไม่หวังดี เพราะหากฝ่าฝืนกฎกติกาก็จะต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใครทั้งสิ้น และยังได้กำชับให้ศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อการออกเสียงประชามติทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอเฝ้าระวังป้องกันและระงับเหตุอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะช่วงใกล้วันลงประชามติ"
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อถึงการปล่อยข่าวสร้างความสับสนทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียให้ระวังการตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติทางเว็บไซต์ของกรมการปกครอง www.khonthai.com ว่า หากกรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักแล้ว จะทำให้ข้อมูลประชาชนไม่ปลอดภัย ถูกแก้ไข หรือถูกลักลอบไปทำธุรกรรมที่เสียหายนั้น
"เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะการกรอกเลขประชาชนเป็นเพียงการนำเข้าสู่ระบบแสดงผลข้อมูลอัตโนมัติที่ทำให้ผู้ใช้งานทราบว่าตนเองเป็นผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติหรือไม่ จึงไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขข้อมูลใด ๆ
ขณะเดียวกัน กรมการปกครองมีฐานข้อมูลพื้นฐานของประชาชนอยู่แล้วนับตั้งแต่วันที่ทุกคนยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชน จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล อีกทั้งในปัจจุบันการให้บริการประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานต่าง ๆ ก็ใช้การกรอกเลขบัตรประชาชนในการดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่อันตรายแต่อย่างใด"
ที่มา: http://www.thaigov.go.th