นายกรัฐมนตรีเยี่ยมศูนย์ซ่อมท่าอากาศยานอู่ตะเภา พร้อมเยี่ยมความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา และท่าเรือจุกเสม็ด

ข่าวทั่วไป Wednesday June 22, 2016 14:19 —สำนักโฆษก

วันนี้ (22 มิถุนายน 2559) เวลา 11.00 น. ภายหลังการร่วมประชุมหัวหน้าส่วนราชการเพื่อติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมศูนย์ซ่อมอากาศยานแห่งที่ 2 (อู่ตะเภา) ของบริษัท การบินไทยจำกัด (มหาชน) โดยมีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ประธานกรรมการบริษัท นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ร้อยเอก มนตรี จำเรียง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาอย่างยั่งยืน และ ร้อยโท เฉลิมพล อินทรวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่าง พร้อมฝ่ายบริการและช่างซ่อมบำรุงให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ นายจรัมพร โชติกเสถียร ได้กล่าวสรุปถึงศักยภาพของศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภาและความคืบหน้าของการพัฒนาศูนย์ซ่อมให้เป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานแห่งภูมิภาคตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะพัฒนาให้ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เป็นนิคมอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งศูนย์ซ่อมแห่งนี้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2540 พื้นที่ 150 ไร่ มีขีดความสามารถในการซ่อมใหญ่ (Heavy Maintenance) สำหรับเครื่องบินลำตัวกว้างแบบโบอิ้ง 747, 777 แอร์บัส เอ 330 และเครื่องบินลำตัวแคบแบบโบอิ้ง 737 โดย มีโรงซ่อมอากาศยาน (Hangar) ขนาดใหญ่สามารถนำเครื่องบินเข้าซ่อมบำรุงพร้อมกันได้ 3 ลำ ดำเนินการซ่อมเฉลี่ยปีละ 20 ลำ ทั้งนี้ ศูนย์ซ่อมอากาศยานดังกล่าวมีประสิทธิภาพสูงและมีมาตรฐานได้รับการยอมรับในระดับสากลการบินไทย รวมทั้งมีความพร้อมที่จะสนองตอบนโยบายของรัฐบาลในการร่วมพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ เพื่อรองรับการขยายตัวการคมนาคมขนส่งทางอากาศในอนาคตทั้งระดับประเทศและภูมิภาคอาเซียน

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับพนักงานการบินไทยที่มาต้อนรับว่า ขอให้ช่วย ๆ กันปฏิรูป โดยก่อนออกจากศูนย์ซ่อมบำรุง นายกรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายภาพกับทีมช่างซ่อมบำรุง โดยช่างซ่อมบำรุงตะโกนให้กำลังใจในการทำงานกับนายกรัฐมนตรี พร้อมขอให้อยู่ต่ออีก 10 ปี

จากนั้นเวลา 11.30 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมชมความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า การสร้างสนามบินต้องมองถึงอนาคต มีความเชื่อมโยงกับหลายแห่ง และต้องการให้มีภาพลักษณ์ของสนามบินที่สะท้อนความเป็นวัฒนธรรมไทยด้วย

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ เพื่อติดตามความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรือเฟอรี่ เชื่อมจังหวัดในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน รองรับการขนส่งระหว่างฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า ทราบเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการทุกอย่างแล้ว พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ให้การต้อนรับอย่างดี และนายกรัฐมนตรีได้กล่าวฝากถึงประชาชนทุกคน ว่า ต้องการให้ร่วมมือกัน เชื่อมโยงกันเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การพัฒนาประเทศ ให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทยต่อไป

---------------------------------------------------

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ