วันนี้ (25 ก.ค.59) เวลา 16.15 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ประกอบด้วย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ฯลฯ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ก่อสร้างโรงงานผลิตยางแผ่นเครปและยางแท่งของบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ที่ตำบลลุโบะบือซา อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามนโยบายของ BOI โดยมีคณะผู้บริหาร พนักงานกลุ่มบริษัทศรีตรังฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทศรีตรังฯ ในนามตัวแทนบริษัทศรีตรังฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีที่นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาเยี่ยมชมและติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างโรงงานบริษัทศรีตรังฯ สาขาจังหวัดนราธิวาสซึ่งเป็นโรงงานผลิตภัณฑ์ยางพาราในวันนี้ จากนโยบายรัฐบาลที่ให้การส่งเสริมสนับสนุนการลงทุนพิเศษในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และความเชื่อมั่นที่ได้รับการสนับสนุนอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ จากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนตั้งโรงงานในทุกระดับในจังหวัดนราธิวาส เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มบริษัทศรีตรังฯ ตัดสินใจมาลงทุนที่จังหวัดนราธิวาส ทั้งนี้ เมื่อต้นปี 2558 บริษัทศรีตรังฯ มีโครงการก่อสร้างโรงงานและก่อตั้งสาขาขึ้นที่จังหวัดนราธิวาสตั้งอยู่ที่ตำบลลุโบะบือซา อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส บนพื้นที่ 156 ไร่ โดยมีกำลังการผลิต 5,000 ตัน/เดือน หรือ 60,000 ตันต่อปี เบื้องต้นเป็นการผลิตยางเครป และจะขยายไปสู่การผลิตยางแท่งในระยะต่อไป โครงการนี้ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 570 ล้านบาท ความคืบหน้าด้านการก่อสร้างขณะนี้คิดเป็น 80% อันเนื่องมาจากความล่าช้าจากสภาพฝนตกหนักเกินการคาดการณ์ในช่วงเริ่มดำเนินงานปรับหน้าดิน ด้านการจ้างงานช่วงการผลิตยางเครปเตรียมการจ้างงาน 81 อัตรา รับแล้ว 60 อัตรา เป็นคนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส 54 คน ยะลา 2 คน ปัตตานี 3 คน และจังหวัดสงขลา 1 คน โดย 90% เป็นคนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ระยะการผลิตยางแท่งในอนาคตจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเป็น 300 อัตรา โดยนโยบายการจ้างงานยังใช้คนในพื้นที่เช่นเดิม ด้านการรับซื้อวัตถุดิบได้เริ่มรับซื้อวัตถุดิบทดลองตลาดในเดือนเมษายน 2558 มีเป้าหมายซื้อวัตถุดิบ 5,000 ตันต่อเดือน โดย 90% มาจากจังหวัดนราธิวาส และอีก 10% จากพื้นที่รอยต่อจังหวัดใกล้เคียงคือจังหวัดยะลาและปัตตานี
สำหรับบริษัทศรีตรังฯ ดำเนินธุรกิจภายใต้ความเป็น “The Green Rubber Company” หรือ องค์กรแห่งยางสีเขียวและเป็นผู้ประกอบการธุรกิจยางพาราครบวงจรผลิตภัณฑ์สินค้าที่มีคุณภาพเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญแก่คู่ค้าในห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพที่สอดคล้องกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ประเทศไทย 4.0 ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ สามารถสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่กว่า 300 อัตรา สามารถรองรับวัตถุดิบในพื้นที่ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่าง ๆ สอดคล้องกับแนวทางพัฒนายางพาราทั้งระบบของรัฐบาล โดยบริษัทศรีตรังฯ ได้มีการดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปี มีโรงงานมากกว่า 35 โรงงานทั่วโลก มีกำลังการผลิตรวม 2,400,000 ตันต่อปี มีพนักงานทั้งรายวันและรายเดือนประมาณ 13,000 คน สามารถทำรายได้เข้าสู่ประเทศปีละประมาณ 61,000 ล้านบาท ทั้งนี้ยางพาราถือเป็นสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าการส่งออกมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ โดยมีมูลค่าการส่งออก พ.ศ. 2558 ประมาณ 170,421.29 ล้านบาท
อีกทั้ง บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความร่วมมือแก่รัฐบาลในด้านนโยบายต่าง ๆ โดยเฉพาะนโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ “Value Based Economy” หรือเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม โดยการเติมเต็มด้านวิทยาการความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัยและพัฒนา แล้วต่อยอดความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบเป็น “5 กลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเป้าหมาย” ซึ่งอุตสาหกรรมเป้าหมายแรกคือ กลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ โดยอุตสาหกรรมของกลุ่มบริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ได้ตอบรับนโยบายดังกล่าว โดยมีการวิจัย และพัฒนาเกี่ยวกับนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีในอุตสาหกรรม เช่น มีการศึกษาและใช้เทคโนโลยีในการกำจัดกลิ่นที่ทันสมัยและไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน มีนวัตกรรมการจัดการน้ำที่สามารถนำน้ำกลับมาใช้ได้ 100% เป็นต้น และในอนาคตยังมีการวิจัยและพัฒนาในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในด้านอุตสาหกรรมยางพาราอย่างต่อเนื่องเพื่อสนองรับนโยบายดังกล่าวด้วย
พร้อมกันนี้ บริษัทศรีตรัง ได้เสนอประเด็นที่ต้องการให้รัฐบาลส่งเสริมสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพด้านอุตสาหกรรมยางพารา ดังนี้ 1) ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งท่าเทียบเรือและระบบราง เพื่อการขนส่งสินค้ารองรับการลงทุนในพื้นที่ 2) ขยายพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนราธิวาสให้ครอบคลุมถึงตำบลลุโบะบือซา อำเภอยี่งอ 3) ขอให้มีการส่งเสริมความรู้ด้านยางพาราแก่นักเรียน นักศึกษาให้กว้างขวางยิ่งขึ้น และประเด็นสำคัญสำหรับการลงทุนของกลุ่มบริษัทศรีตรังฯ ที่จังหวัดนราธิวาสคือเรื่องความปลอดภัย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมการดำเนินงานของบริษัทศรีตรังฯ ซึ่งเป็นการสร้างงานในพื้นที่ พร้อมจะรับประเด็นข้อเสนอของทางบริษัทศรีตรังฯ ไปพิจารณาดำเนินการ และฝากให้บริษัทศรีตรังฯ พิจารณาเรื่องราคายางให้ประชาชนในพื้นที่เป็นไปอย่างเหมาะสมให้สามารถอยู่ได้ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมกระบวนการการผลิตยางเครปและผลิตภัณฑ์ยางแท่ง รวมทั้งได้พบปะทักทายพนักงานที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ
--------------------------
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th