ที่ประชุมได้รับทราบความพึงพอใจในภาพรวมของสหภาพยุโรปต่อความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายอย่างจริงจัง (IUU Fishing) วันนี้ (27 กรกฎาคม 2559) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ครั้งที่ 9/2559
ภายหลังเลิกการประชุมฯ พลตรี คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาดโหมและพันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบกได้แถลงข่าวสรุปผลการประชุมฯ ว่าที่ประชุมได้รับทราบการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) มีความคืบหน้ามากขึ้น หลังจากที่ฝ่ายไทยได้ร่วมประชุมกับสหภาพยุโรปในการแก้ปัญหาดังกล่าว สหภาพยุโรปมีความพึงพอใจในภาพรวมและเห็นความตั้งใจของฝ่ายไทยที่ได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังและชัดเจนโดยมีการปรับปรุงกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้มีความเหมาะสมอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการติดตาม ควบคุมและเฝ้าระวังเช่น ระบบติดตามเรือประมง ระบบการแจ้งเข้า – ออก เรือประมงให้มีผลทางปฏิบัติ รวมทั้งการควบคุมกำกับการทำการประมงนอกน่านน้ำไทย การจัดการนำสัตว์น้ำขึ้นท่าเทียบเรืออีกทั้งมีการควบคุมท่าเทียบเรือ ซึ่งสหภาพยุโรปมีความเข้าใจว่าไทยได้มีการปรับปรุงระบบต่าง ๆ เพื่อให้มีขีดความสามารถในการติดตามควบคุมและเฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นระบบการตรวจสอบย้อนกลับและการออกใบรับรองการจับสัตว์น้ำ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาด้วยการนำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้งานให้เกิดประสิทธิผลมากขึ้น ขณะเดียวกันมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับชาวประมง ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อเกิดการเรียนรู้และนำไปสู่การปฏิบัติงานให้สอดคล้องมากขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเรื่องการขับเคลื่อนปรับภูมิทัศน์ลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงพื้นที่สาธารณะซึ่งมีอยู่จำกัด ได้ใช้ประโยชน์ระยะยาวอย่างทั่วถึง เพราะว่าแม่น้ำเจ้าพระยาถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของไทยมาตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน และจะมีการพิจารณาออกกฎหมายพิเศษเฉพาะเพื่อให้การพัฒนาและปรับภูมิทัศน์ลำน้ำเจ้าพระยาสามารถเกิดขึ้นจริงได้ ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลจะมีการเยียวยาผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนความคิดเห็นของภาคประชาสังคมในประเด็นการไหลเวียนของน้ำ ระบบนิเวศวิทยา วิถีชีวิตชุมชน และผังเมืองจะมีแนวทางดำเนินการอย่างโปร่งใสควบคู่ขนานกันไป
สำหรับประเด็นการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานผิดกฎหมายในไทยได้มีการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งทางการสหรัฐอเมริกาได้ลดระดับจาก Tier 3 (จับตา) เป็น Tier 2 (เฝ้าระวัง) ถือได้ว่าปัญหานี้มีการแก้ไขเกิดผลทางปฏิบัติเป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ในส่วนประเด็นตั๋วร่วมของระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพของการให้บริการดังกล่าวในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางสัญจรไปประกอบภารกิจต่าง ๆ ได้คล่องตัวมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทั้งรถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง เรือโดยสาร และทางพิเศษ โดยขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้เร่งดำเนินการระบบตั๋วร่วม (E-Ticket) ให้มีความคืบหน้าตามลำดับ ทั้งนี้รัฐบาลมุ่งหวังให้บริการดังกล่าวช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยได้เข้าถึงระบบบริการอย่างทั่วถึงและได้มาตรฐานสากล และอยู่ในระหว่างทดสอบระบบซึ่งมีความก้าวหน้ากว่าร้อยละ 85 คาดว่าต้นปี 2560 จะเห็นระบบนี้เกิดผลได้ใช้ปฏิบัติจริง
*****************************
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์
อภิวัฒน์ / รายงาน
ดวงใจ / ตรวจ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th