พร้อมกล่าวขอบคุณคณะกรรมการฯ และตัวแทนหน่วยงานทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งนี้เป็นอย่างดี วันนี้ (5 สิงหาคม 2559) เวลา 13.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ สิงหาคม 2559 ครั้งที่2/2559
ที่ประชุมได้รับทราบตามที่สำนักราชเลขาธิการได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแบบตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 พร้อมเชิญชวนประชาชนประดับธงชาติไทยควบคู่กับธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือนตามความเหมาะสม ส่วนการนำตราสัญลักษณ์เพื่อใช้ในการประดับในโครงการกิจกรรมและสิ่งของใด ๆ ก็ตามให้แจ้งขออนุญาตไปที่กองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบตามที่สำนักราชเลขาธิการได้นำความกราบบังคบทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อพระราชพิธีว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559” ชื่อการจัดงาน “งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559” ส่วนชื่อภาษาอังกฤษใช้เพียงชื่อเดียว ซึ่งหมายความรวมถึงชื่อพระราชพิธีและชื่อการจัดงานว่า “The Celebration on The Auspicious Occasion of Her Majesty The Queen’s 7th Cycle Birthday Anniversary 12th August 2016” โดยกำหนดระยะเวลาการจัดงานตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 รวมทั้งที่ประชุมรับทราบหมายกำหนดพระราชพิธีฯ ตามที่สำนักพระราชวังแจ้งมาได้แก่ วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2559 และวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2559 เวลา 09.00 - 17.00 น. ลงพระนามและลงนามถวายพระพรในพระบรมมหาราชวัง โดยการแต่งกายเครื่องแบบปกติขาว ส่วน วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2559เวลา 12.00 น. ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฯ และเวลา 17.00 น. บรรพชิตจีนและญวนสวดถวายพระพร สวดนพเคราะห์พร้อมเจริญพระพุทธมนต์ มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย โดยการแต่งกายเต็มยศจักรี
สำหรับวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2559 เวลา 10.30 น. ถวายสักการะพระพุทธรูปสำคัญ ณ หอพระสุลาลัยพิมาน ถวายบังคมพระบรมอัฐิ ณ หอพระธาตุมณเฑียรสักการะพระสยามเทวาธิราช ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เลี้ยงพระ เทศน์ พระสงฆ์ถวายพระพร ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย โดยการแต่งกายเต็มยศจักรี
นอกจากนี้ที่ประชุมรับทราบการจัดสร้างถาวรวัตถุน้อมเกล้าถวายฯ ประกอบด้วยพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ซึ่งสำนักราชเลขาธิการได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างพระพุทธรูปโดยมีความหมายว่า “พระสัมพุทธโคดม องค์เป็นมงคลสร้างเมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา” ซึ่งทรงทอดพระเนตรพระพุทธรูปต้นแบบด้วยแล้ว ส่วนการถวาย “เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์” ซึ่งเป็นเรือนไทยที่มียอด 9 ยอด ได้รับพระราชทานนามดังที่สำนักราชเลขาธิการแจ้งมาโดยมีความหมายว่า “เรือนยอดที่สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งใหญ่” ต่อด้วยการถวาย “ โครงการจัดสร้างสวนป่าเบญจกิตติ” ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2559 โดยรัฐบาลมอบหมายให้ กรมธนารักษ์ดำเนินการในระยะที่หนึ่งเนื้อที่ 61 ไร่ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรมดังกล่าวในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2559 ตลอดจนจัดสร้างถวาย “ พิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน” โดยมีรูปแบบอาคารเป็นสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยมีความเป็นเอกลักษณ์ของไทยเน้นพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ใช้สอยเป็นสำคัญ ซึ่งที่ตั้งอาคารอยู่ในบริเวณหอประชุมกองทัพบก ถนนราชสีมา กรุงเทพฯ สำหรับเก็บรวบรวมสมบัติอันล้ำค่าของแผ่นดินให้อนุชนรุ่นหลังได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในความเป็นไทย ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปีเริ่มดำเนินการปี 2559 นี้ รวมทั้งจัดสร้างถวาย “พิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินแบบจำลอง”ขนาดมาตราส่วน 1:200 ทำด้วยวัสดุโลหะเงินน้ำหนักประมาณ 7 กิโลกรัม ความกว้างประมาณ 77 เซนติเมตร ความยาวประมาณ 84 เซนติเมตรและแท่นฐานรองทำด้วยวัสดุไม้พะยูง
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบการจัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติ ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในงานดังกล่าว ในวันอังคารที่ 9 สิงหาคม 2559 เวลา 19.00 น.
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมรับทราบการจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติซึ่งดำเนินการทั้งในส่วนกลางส่วนภูมิภาคและในต่างประเทศ โดยในส่วนกลางจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2559 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ สำหรับส่วนภูมิภาคจัดพิธีและกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคลในวันดังกล่าวเช่นกันตั้งแต่เวลา 06.30 เป็นต้นไป ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ณ สถานที่ที่จังหวัดนั้น ๆ เห็นสมควร และในต่างประเทศจัดพิธีและกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคลที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ในวันดังกล่าวตามเวลาของประเทศนั้น ๆ อีกทั้งในวันพุธที่ 17 สิงหาคม 2559 เวลาศูนย์ 8.30 น. รัฐบาลจัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย รวมทั้งจัดปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติตามหลักของแต่ละศาสนาอีกด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบการกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการพิจารณาการกลั่นกรองโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ด้วยการกำหนดประเภทไว้ 9 ด้าน ได้แก่ด้านการสร้างถาวรวัตถุและสาธารณประโยชน์ ด้านการส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิต พัฒนาสังคมและจิตใจ ด้านการส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรม ด้านการส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้านการส่งเสริม การศึกษา ด้านมหกรรมการแสดง การประกวด และนิทรรศการ ด้านการจัดทำเอกสาร วีดีทัศน์ และของที่ระลึกและด้านอื่น ๆ โดยมีโครงการและกิจกรรมที่ผ่านหลักเกณฑ์จำนวน 298 โครงการ/กิจกรรม ตลอดจนที่ประชุมรับทราบการจัดทำหนังสือจดหมายเหตุการณ์จัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 1 หมื่นเล่ม โดยรวบรวมเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระเกียรติคุณ การจัดเตรียมงานเฉลิมพระเกียรติ พระราชพิธี รัฐพิธีรวมทั้ง โครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ศาสนาพิธีและกิจกรรมฉลองต่าง ๆ
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบมอบอำนาจให้นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานพิจารณาเรื่องเร่งด่วนและจำเป็น แทนคณะกรรมการฯ อีกด้วย เพื่อให้งานเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และสง่างามอย่างครบถ้วน
ตอนท้ายของการประชุม นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานการประชุมได้มอบหมายให้ทหารและตำรวจได้ร่วมมือกันในการรักษาความปลอดภัยและอำนวยการจัดระเบียบการจราจรการจัดงานเฉลิมพระเกียรติให้รัดกุมและสมพระเกียรติมากที่สุด ตลอดจนมีการประชาสัมพันธ์การจัดระเบียบการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่สัญจรไปมา ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับการจัดงานฯ ล่วงหน้าแต่เนิ่น ๆ ด้วย อีกทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ดำเนินการประชาสัมพันธ์งานฯ ผ่านสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะสื่อวิทยุและโทรทัศน์ ให้ต่อเนื่องและกว้างขวางในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งประชาชนสามารถติดตามรายละเอียดของงานได้อย่างสะดวกและเป็นช่วงเวลาที่มีผู้ติดตามชมรายการจำนวนมาก (Primetime) พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณคณะกรรมการฯ และตัวแทนหน่วยงานทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯครั้งนี้เป็นอย่างดี
อนึ่ง หลังจากเลิกการประชุมดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้เชิญคณะกรรมการฯ เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ OTOP ของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ณ บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สนองแนวพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้แก่การแสดงผ้าจกไหมย้อมสีธรรมชาติ ผ้าโจงกระเบนโบราณ ผ้าไหมคุณภาพดี เครื่องเงิน กระเป๋าผ้าแบบต่าง ๆ ตลอดจนครีมหัวไช้เท้า เซรั่มฟักข้าวและน้ำยาปิดผมขาวใบหญ้านาง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสนใจพร้อมอุดหนุนผลิตภัณฑ์เหล่านี้ด้วย และได้กล่าวทักทายผู้ประกอบการ OTOP ที่มาแสดงผลิตภัณฑ์ในงานนี้ด้วยอัธยาศัยอันดี
********************************
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
อภิวัฒน์ / รายงาน
ดวงใจ / ตรวจ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th