วันนี้ (10 สิงหาคม 2559) เวลา 13.30 น. ณ บริเวณด้านหน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อม นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำตัวแทนภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อประชาสัมพันธ์ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้า
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาจัดแสดงในวันนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าภาครัฐให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งกระทรวงพลังงานมีการจัดตั้งคณะทำงานและจัดทำแผนโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยไว้ โดยมีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามาเป็นคณะทำงาน ซึ่งได้กำหนดแนวทางการจดทะเบียนผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า และอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าชั่วคราวเป็นเวลา 2 ปี โดยเน้นให้ราคาการอัดประจุไฟฟ้ากลางวันสูงกว่าการอัดประจุไฟฟ้ากลางคืน นอกจากนี้จะมีโครงการสนับสนุนการลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับภาครัฐและเอกชนซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณา ซึ่งจะทราบผลได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ในปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้เตรียมความพร้อมระบบไฟฟ้าพื้นฐานของประเทศ เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่จะมีเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยกระทรวงพลังงานได้ประมาณการเบื้องต้นว่าจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าจะมีถึง 1.2 ล้านคันในปี 2579 ซึ่งในตอนนั้นประเทศไทยจะมีปริมาณการผลิตไฟฟ้าตามแผนประมาณ 70,000 เมกะวัตต์ บวกกับกำลังผลิตไฟฟ้า 15 – 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการ
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ทดลองนั่งและขับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ พร้อมกล่าวว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของประชาชน และเป็นการเตรียมการสู่อนาคต ซึ่งวันหน้าอาจมีการผลิตขึ้นเองในประเทศ แต่วันนี้มีการนำเข้ามาจำนวนหนึ่งเพื่อนำมาวิจัยและพัฒนาค้นคว้า พร้อมย้ำการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะต้องไม่กระทบกับตลาดรถอีโค่คาร์ ซึ่งจะต้องดูปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน แต่นับเป็นมิติใหม่ในวันข้างหน้า ในส่วนมาตรการด้านภาษีจะละเว้นภาษีให้จำนวนหนึ่งในกรณีนำมาทดลองใช้ เพราะถ้าลดภาษีลงเท่ารถอีโค่คาร์ จะส่งผลกระทบกับตลาดรถยนต์อีโค่คาร์ ในส่วนการประหยัดพลังงาน จะประหยัดได้ก็ต่อเมื่อราคาถูกกว่าเติมน้ำมัน เพื่อให้ชดเชยราคาน้ำมันที่สูง
********************************
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th