วันที่ 27 ส.ค.59 พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นับจากที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างจริงจัง นั้น
“ล่าสุดตำรวจท่องเที่ยวได้เข้าจับกุมเจ้าของบริษัทฝูอัน จำกัด และบริษัทซินหยวน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญที่ไม่ได้นำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย มีแต่ยอดนักท่องเที่ยว และเงินรายได้ทั้งหมดจะถูกส่งกลับจีนผ่านนายหน้า โดยทั้ง 2 บริษัทมีความผิดฐานสวมบัตรประชาชนคนไทยเข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัททัวร์ และความผิดฐานอั้งยี่ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานหลักในการยึดทรัพย์ของ ปปง. และยังได้ขยายผลตรวจพบต้นทางขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ ชื่อบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทคนไทย มีรถทัวร์อยู่ในความครอบครองกว่า 3,000 คัน มีบริษัทจิวเวลรี่ บริษัทเครื่องหนัง บริษัทอาหาร ยาบำรุงสุขภาพ และร้านอาหาร ในเครือ โดยให้บริษัทคนจีนนำลูกทัวร์เข้าไปใช้บริการรถทัวร์ และร้านเหล่านี้ ซึ่งจะเก็บเงินจากลูกทัวร์ที่เข้าใช้บริการเพิ่มอีกประมาณ 35% ของเงินค่าแพคเกจทัวร์ที่เก็บไปแล้วเบื้องต้น ทำให้มีเงินสะพัดหลายพันล้าน และไม่มีการชำระภาษีอย่างถูกต้อง”
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า รัฐบาลยินดีสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวที่ถูกกฎหมาย จึงยอมไม่ได้กับพฤติกรรมที่สร้างความเสียหาย โดยอยากเตือนสติคนไทย ว่า ขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง ไม่สมคบคิดกับต่างชาติ แสวงหาประโยชน์เข้าตัวเอง เพราะถึงแม้ว่าจะร่ำรวยจากการประกอบธุรกิจ แต่รายได้ส่วนใหญ่กลับตกเป็นของต่างชาติ ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และขวัญกำลังใจของผู้ที่ประกอบธุรกิจด้วยความสุจริต ด้วย
“ท่านนายกฯ ได้รับทราบข้อมูลแล้ว และฝากชมเชยเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติการในครั้งนี้ รวมทั้งกำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งเดินหน้าปูพรมแก้ไขปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายบริษัทที่ลักลอบกระทำการในลักษณะนี้ และขอให้ผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว หยุดกระทำการโดยทันที และไม่หลงเชื่อคำชักชวนจากผู้ไม่หวังดี หรือหากพบการประกอบธุรกิจที่เข้าข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ ให้รีบแจ้งศูนย์ดำรงธรรม หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที โดยรัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ในทุกกรณี”
ทั้งนี้ จนท.ได้สนธิกำลังกัน เข้าจับกุมตัวกรรมการบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต 2 คน ในข้อหาอั้งยี่และกระทำการให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พร้อมทั้งเข้าตรวจค้น บ.โอเอ ทรานสปอร์ต บ.บางกอกแฮนดิคราฟท์ บ.รอยัลพาราไดซ์ บ.รอยัลเจมส์อินเตอร์เนชั่นแนล บ.รอยัลไทยเฮิร์บ สามารถยึดของกลางได้หลายรายการ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th