นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมสัมชชาใหญ่องค์การรัฐสภาอาเซียน

ข่าวกฏหมายและประกาศ Monday September 3, 2001 15:57 —สำนักโฆษก

วันที่ 3 กันยายน 2544
พลโท ขิ่น ยุ้น เลขาธิการ 1 สภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ สหภาพพม่า เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี วันนี้ เวลา 11.30 น. ณ. ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลโท ขิ่น ยุ้น เลขาธิการ 1 สภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ สหภาพพม่า เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 3 — 5 กันยายน 2544 หลังจากนั้น นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง ประเทศ ได้แถลงผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรี และพลโท ขิ่น ยุ้น สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
พลโท ขิ่น ยุ้น ได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญในการมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ว่า พลเอก อาวุโส ตาน ฉ่วย ประธานสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐสหภาพพม่าได้เน้นให้ติดตาม และสานต่อความร่วมมือและข้อตกลงต่างๆที่ไทยและพม่าได้หารือกันเมื่อครั้งที่นายกรัฐมนตรีเยือนสหภาพพม่า ในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมาให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ พลโท ขิ่น ยุ้น ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและพม่าว่าไม่มีความหวาดระแวงต่อกันอีกต่อไป และเพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ดีนี้ พม่าได้ปล่อยคนไทยที่ถูกจับไป 7 คนอย่างรวดเร็วและปลอดภัยแล้ว สำหรับเรื่องความร่วมมือด้านความมั่นคง ในการปักหลักเขตแดนนั้นจะให้กรรมการปักปันเขตแดนของทั้งสองประเทศได้พบปะกันโดยเร็ว เพื่อดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงตามที่ได้หารือกันไว้ นอกจากนี้ พม่ายินดีที่จะให้ความร่วมมือด้านยาเสพติดต่อไป โดยจะปฏิบัติตามข้อตกลง ที่กำหนดไว้ในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ซึ่งได้ลงนามร่วมกัน และจะพิจารณาความร่วมมือ ด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้องกันต่อไปอีกด้วย เช่น ด้านการแลกเปลี่ยนข่าวกรองเป็นต้น และจากความสำเร็จในการประชุมยาเสพติด 4 ฝ่ายที่ผ่านมาที่คุณหมิง นายกรัฐมนตรีและพลโท ขิ่น ยุ้น มีความเห็นร่วมกันว่าจะให้มีการพบปะระดับผู้นำต่อไป นอกจากนี้ พลโท ขิ่น ยุ้น ได้แจ้งว่า กลุ่มว้าได้สัญญาว่าจะกำจัดยาเสพติดให้หมดไปภายในปี 2005 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวสนับสนุนว่า หากมีการปลูกพืชทดแทนยาเสพติด ไทยก็จะพิจารณาให้ GSP แก่สินค้าเกษตรที่ปลุกขึ้นทดแทนเพื่อส่งเสริมโครงการดังกล่าว
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและพลโท ขิ่น ยุ้น ได้หารือกันในเรื่องความร่วมมือด้านการค้า โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะระบบการค้าแบบ Account Trade ที่พลเอกอาวุโส ตาน ฉ่าย เห็นด้วยและจะผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ในด้านการประมง พม่าจะพิจารณาประเทศไทยเป็นอันดับต้นเพื่อร่วมลงทุนด้านการประมง โดยขอให้ไทยรีบส่งเจ้าหน้าที่ไปเจรจาโดยเร็ว และสำหรับรายการสินค้า 15 รายการ ที่พม่าห้ามนำเข้าจากไทยนั้น พม่าจะทยอยยกเลิกการนำเข้าเป็นกรณีๆ ไป ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางการค้า และแสดงถึงสัมพันธภาพไมตรี และความจริงใจที่ไทยมีต่อพม่า
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าไทยยินดีสนับสนุนการก่อสร้าง สะพานข้ามแม่น้ำสาย แห่งที่ 2 เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศต่อไปรวมทั้งได้กล่าว ถึงนโยบาย จัดระเบียบ แรงงานต่างด้าวของรัฐบาลไทย และขอให้ไทยและพม่าได้ร่วมลงนามใน บันทึกความเข้าใจเรื่องแรงงานจากพม่าโดยเร็ว ซึ่งพลโท ขิ่น ยุ้น ได้เห็นด้วยกับข้อเสนอ ของนายกรัฐมนตรีทุกประการ ส่วนปัญหาผู้หลบลี้ภัยจากการสู้รบนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เสนอว่า ปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆ ในพม่าพัฒนาไปด้วยดีแล้ว และความสัมพันธ์ ระหว่างไทยกับพม่าก็ไม่มีการแคลงใจต่อกันแล้ว จึงเห็นว่าน่าจะมีโครงการ ส่งผู้หลบภัยกลับประเทศ โดยจะประสานกับองค์กรระหว่างประเทศที่พม่าให้ความไว้วางใจ เพื่อจัดสถานที่ที่ปลอดภัยและฝึกอาชีพให้กับคนกลุ่มนี้ด้วย
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่ารัฐบาลไทยยินดี สนับสนุนขบวนการปรองดอง กันของพม่า และยินดีให้ความช่วยเหลือ โดยที่ไทยจะไม่เข้าแทรกแซง ซึ่งพลโท ขิ่น ยุ้น ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีในการสนับสนุนดังกล่าว จากนั้น ภายหลังการหารือ เสร็จสิ้นลง นายกรัฐมนตรีได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อเกียรติแก่พลโท ขิ่น ยุ้น ที่บ้านพิษณุโลก
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 6299292,6299491 โทรสาร 2814450
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ