วันนี้ (วันที่ 14 กันยายน 2559) เวลา 18.00 น. ณ ห้องคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2559 จำนวน 23 รางวัล จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง มีผู้ร่วมงานประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้บริหารกระทรวงการคลัง ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน ประมาณ 800 คน
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้กล่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังได้จัดงานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2559 โดยงานดังกล่าวได้มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา โดยในปีนี้ การจัดงานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น มีวัตถุประสงค์ทั้งนี้เพื่อประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบถึงผลการดำเนินงานของรัฐวิสากิจที่มีผลดำเนินงานดีเด่นในด้านต่าง ๆ อีกทั้งเพื่อจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้พนักงานรัฐวิสากิจ และช่วยส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจมีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลวิสาหกิจดีเด่นในสาขาต่าง ๆ จำนวน 23 รางวัล อาทิเช่น รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น รางวัลการพัฒนาองค์กรดีเด่นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น รางวัลการพัฒนาองค์กรดีเด่นในภาพรวม พร้อมกล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในงานมอบรางวัลวิสาหกิจดีเด่นครั้งนี้ รัฐวิสาหกิจ ถือเป็นกลไกสำคัญอย่างหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของการบริการสาธารณะ สร้างรายได้และความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องโครงการบ้านประชารัฐว่า การนำที่ดินคืนทั้งในทางพฤตินัยและทางนิตินัยนั้น รัฐบาลเน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก จะต้องดำเนินการโดยให้ประชาชนความเดือดร้อนน้อยที่สุด ยกเว้นพื้นที่ต้องห้าม ที่จะต้องดำเนินตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันการค้าการลงทุนมีอัตราเพิ่มขึ้นมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องมาจากการให้ความร่วมมือจากทางเอกชนและภาครัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการคมนาคม สาธารณูปโภค นั่นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ทำอย่างไรให้ประชาชนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวง สร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลและประชาชน เจ้าหน้าที่จะต้องดูแลประชาชนด้วยธรรมาภิบาลให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะสร้างความแข็งอย่างสมดุลรวมไปถึงเศรษฐกิจฐานรากที่ดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำการพัฒนาตนเอง และการพัฒนาทรัพยากรที่เป็นสิ่งสำคัญประการ ที่จะทำให้ประเทศไปสู่จุดมุ่งหมายอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยังยืน ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนาใน 20 ปีข้างหน้าอย่างเชื่อมโยงในทุกเส้นทาง ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เน้นจากการจัดกลุ่มเป็นภูมิภาค ลงมาสู่จังหวัด อำเภอ และชุมชน ร่วมกันวางแผนและพัฒนาทั้ง การไฟฟ้าและการประปา กำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกัน เพื่อเดินหน้าไปสู่จุดมุ่งหมายที่ต้องการให้ได้ รวมไปถึงการเพื่อกูลซึ่งกันและกันของรัฐวิสาหกิจให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ฝากหน่วยงานรัฐวิสากิจ ร่วมมือกันสร้างความเชื่อมโยงให้กับทุกระดับ ขับเคลื่อนกันพัฒนากันยังเป็นประชารัฐ ดำเนินการด้านสาธารณูปโภคให้ประชาชนอย่างทั่วถึง และที่สำคัญ สร้างความเข้าใจให้กับประชาชน ดูแลดีเจ้าหน้าที่และครอบครัวในทุกระดับชั้น ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี สร้างกำลังกายและกำลังใจที่เข็มแข็ง เพื่อเป็นกำลัง สำคัญในการพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง และยังยืนต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการการแสดงผลงานของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ พร้อมกล่าวชื่นชมถึงความร่วมมือตามแนวทางประชารัฐ และเชิญชวนให้นำสินค้าภายในนิทรรศการไปจัดแสดงในทำเนียบรัฐบาล
โดยในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีแสดงพันธสัญญาร่วมกับรัฐมนตรีและผู้บริหารโดยการวางตุ๊กตามาสคอตลงบนแท่ง พร้อมถ่ายภาพหมู่ร่วมกับผู้ได้รับรางวัลเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจอีกด้วย
---------------------------------------------------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่
สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th