วันนี้ (15 ก.ย.59) เวลา 13.40 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวสรุปเนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปี การดำเนินงานของรัฐบาล ดังนี้
ขอบคุณท่านรองนายกรัฐมนตรี ขอบคุณท่านรัฐมนตรีทุกกระทรวงนะครับ วันนี้เห็นหน้าเห็นตาทุกคนไม่ได้ขาดหายไปที่ไหน สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้เป็นการสรุปบางอย่างที่อาจจะไม่ได้พูดไป เพื่อผมต้องการเห็นอนาคตอย่างที่ว่าเมื่อสักครู่ ให้เป็นชิ้นเป็นอัน ท่านดูไปเรื่อย ๆ ผมจะพูด แล้วข้างหลังจะชูไปเรื่อย ๆ ให้เห็นเป็นน้ำจิ้มไปก่อน EEC ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก จะทำให้เกิดการลงทุน 5 แสนล้านล้านภายใน 5 ปี จะทำให้เกิดเศรษฐกิจโต 5 เปอร์เซ็นต์ จะทำให้เกิดการจ้างใหม่กว่า 1 แสนอัตรา จะสร้างฐานภาษีใหม่กว่าแสนล้านบาท นักท่องเที่ยวจากปัจจุบันจะเพิ่มอีก 10 ล้านคนต่อปี ลดต้นทุนโลจิสติกส์ลงไป 4 แสนล้านบาทต่อปี ลดค่าใช้จ่ายจากการใช้เงิน 15% GDP เหลือ 12%GDP เพื่อจะเอาเงินไปทำอย่างนี้ เรียกว่าเป็นการยกระดับรายได้ คุณภาพชีวิต และดูแลสิ่งแวดล้อมของไทยให้เป็นมาตรฐานสากล เป็นโครงการเดียวเท่านั้นเอง มีอีกหลายโครงการ เดี๋ยวจะดูระบบรางปี 57 ปี 58 ปี 60-79 มีเป็นแผนแม่บทอยู่แล้ว จะทำหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ผมจะทำตามที่ผมมีเวลาอยู่นี้ จะเขียนไว้ให้ ทางน้ำ 57 58 60 60-79 โครงข่าย 57-79 ยุทธศาสตร์น้ำ 10 ปี การสร้างชุมชนที่อยู่อาศัย 4 ล้านครัวเรือน 59-67 รถไฟฟ้า 57-60 เพิ่ม 300 กิโลเมตร ครอบคลุมเป้าหมาย 1,600 ตารางกิโลเมตร รองรับการเดินทาง 7 ล้านคนต่อวัน เชื่อมคน กทม.-ปริมณฑล ร้อยละ 40 จะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและการขนส่งมวลชนภายในอีก 12 ปีข้างหน้า ยาวไหมละครับ มีใครคิดแบบนี้ไหม มีรัฐบาลไหนเคยบอกท่านไหม รูปแบบการขนส่งหลักของประเทศในอนาคต จะต้องใช้ราง ใช้น้ำ ระบบราง ระบบน้ำ เป็นเครือข่ายหลัก ยุทธศาสตร์พลังงาน ยุทธศาสตร์บริหารจัดการน้ำ ยุทธศาสตร์บริหารจัดการด้านการเกษตร การค้า การลงทุน สาธารณสุข การศึกษา วิจัยพัฒนา ความมั่นคง ที่เกี่ยวข้องกับทุกมิติ ยุทธศาสตร์เรื่องอาหาร พลังงาน สิ่งแวดล้อม ทั้งหมดมียุทธศาสตร์ทั้งหมด นั่นคือประเทศต้องเดินไปแบบนั้น เดินสะเปะสะปะไม่ได้ อย่างเมื่อสักครู่นี้ท่านรองนายกรัฐมนตรีสมคิดฯ บอกว่า ก็ต้องเดินตามพี่ใหญ่ เดินตามผู้ใหญ่สุนัขไม่กัด ใช่ไหม แต่วันนี้สุนัขจะกัดผู้ใหญ่เสียเยอะ มะรุมมะตุ้มแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ไม่รู้เป็นอะไรกัน ก็ทำงานกันแทบเป็นแทบตาย ปั่นป่วนไปเรื่อย ข้างหลังก็เสียหายไปหมด ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลยครับ แต่แล้วแต่ท่าน
วันนี้เรามองว่าประเทศเป็นบ้าน ทหารเป็นรั้ว ตำรวจเป็นรั้ว ว่าไปให้เข้มแข็งแล้วกัน ประชาชนเป็นผู้อยู่อาศัย เราต้องการบ้านที่แสนสุข เป็นบ้านที่ทุกคนมีความสุข มีความรักความสามัคคี มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน รัฐบาลโดยข้าราชการเปรียบเสมือนพ่อบ้าน เจ้าของบ้านคือประชาชน ต้องทำให้ทุกคนในบ้านนั้นมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ลูก คนขับรถ คนรับใช้ แม่ครัว ยาม ทุกคนต้องมีความสุขในบ้านหลังนั้น รัฐบาลมีหน้าที่เหมือนเป็นพ่อบ้านแบบนี้ ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ไม่สร้างความขัดแย้ง ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ไม่เคารพกฎหมาย เหล่านี้คือธรรมาภิบาล แล้วก็คุณธรรม จริยธรรม ทำให้ได้ครับ มันไม่ยากนักหรอก มันเกิดในตัวในใจของทุกคน ถ้าเราต้องการให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าจะต้องทำตัวอย่างไร จะช่วยกันอย่างไรทุกภาคส่วน ขณะเดียวกันก็ต้องมาดูว่าแต่ละบ้านแข็งแรงสมบูรณ์ มีคุณธรรมจริยธรรม ก็จะเกิดหมู่บ้าน ชุมชน เมือง สังคม ประเทศชาติ จึงต้องมีกติกาอยู่ร่วมกัน ก็ไปสู่กฎหมายเมื่อสักครู่นี้ ทำให้สังคมเป็นสุข ถ้าบ้านหลังเดียวกติกาไม่ต้องมีมาก ถ้าบ้านหลายหลังก็ต้องมีกติกา ถึงจะอยู่ร่วมกันได้ เพราะฉะนั้นจะไปขัดแย้งกับการที่ว่าบริหารจัดการตัวเองโดยชุมชน อะไรต่าง ๆ มันไม่ได้อยู่กันแค่นั้น ไม่ได้อยู่แค่อำเภอเดียว ตำบลเดียว หมู่บ้านเดียว ไม่ใช่ อยู่ตั้งหลายหมื่นกว่าหมู่บ้าน คนเกือบ 70 ล้านคน ถ้าไม่อย่างนั้นสับสนอลหม่านไปหมด เพราะฉะนั้นถึงต้องมีกฎหมายรัฐธรรมนูญเขาเขียนออกมา แต่ทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งจะต้องไม่ไปขัดแย้ง ไม่ไปต่อต้านคัดค้านจนไม่มีเหตุมีผล ผมขอแค่นี้ ทั้งหมดเกิดขึ้นได้หมด
ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมานั้นเราแก้ไขทุกมิติ อย่างที่บอกแล้วเราไม่เลือกทางที่มันง่าย เราดันไปเลือกทางที่มันยาก เราจำเป็น หลายคนก็ไม่เข้าใจ หลายคนก็เร่งร้อน ไม่ต้องแถลงมากหรอก ส่งข้อความมาให้ผม ไม่ต้องแถลงมากหรอก อย่างไรก็ไม่มีเงินใช้ ยังคิดอย่างนี้อยู่เลย ข้าวของแพง ผมถามแพงเท่าไร ผมถามกระทรวงพาณิชย์ ก็แพงขึ้นมาตามกลไกตลาด ไม่ได้ผิดปกติอะไร ถ้าจาก 100 เป็น 200 เป็น 300 ก็อีกเรื่องหนึ่งนะ ผมรู้ว่าแพง แต่ถามว่าแพงเพราะอะไร ไปดูสิกลไกกว่าจะมาขายได้ ผ่านอะไรมาบ้าง แล้วเราทำนั้นพร้อมหรือยัง ที่ผ่านมาทำไมไม่ทำ ทำไมไม่มีกติกาให้พร้อม มีทางเลือกให้เกษตรกร มีประชารัฐ มีร้านค้า มีอะไรต่าง ๆ ตลาดชุมชน ทำหรือยังล่ะ ท่านอย่ามองอย่างเดียว มองแบบเมื่อสักครู่นี้ที่ท่านรองนายกรัฐมนตรีสมคิดฯ พูดไปแล้ว มองอยู่แค่นั้น เมื่อไรจะมีสตางค์ใส่กระเป๋าตัวเอง แล้วคนอื่นละครับ ข้างบนก็ต้องการ ตรงกลางก็ต้องการ ข้างล่างก็ต้องการ แล้วถ้าไม่ช่วยร่วมมือจะเอามาจากที่ไหน เงินมาจากที่ไหน ลอยมาได้ในอากาศไหม ถ้าไม่ร่วมมือกัน เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจที่สะสมมาเป็นเวลานาน 10 ปี สำเร็จได้ต้องอาศัยเวลาและความร่วมมือ แต่เราก็จะแก้ไข ขณะเดียวกันก็เหมือนกับเราฟื้นฟูผู้บาดเจ็บใช่ไหม ต้องให้น้ำเกลือให้ยาฆ่าเชื้อ อย่ากลัวเข็ม กลัวเข็ม ฉีดยาฆ่าเชื้อ ให้น้ำเกลือ กลัวทำไม กลัวก็ไม่ต้องหายโรคไม่ต้องหาย ก็ติดเชื้อไปเรื่อย เพราะฉะนั้นถ้าเราทำได้แบบนี้ เราเล็งเห็นความสำคัญของแต่ละคนแต่ละกลุ่มรายได้ที่เท่าเทียม ทั่วถึง ก็จะเกิดห่วงโซ่ประเทศไทยทั้งหมดขึ้นมา หนึ่งคือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ทำให้ตั้งเยอะตั้งแยะ ทั้งเกษตรกร ระยะสั้นระยะยาว พูดไปแล้ว การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ศูนย์ดำรงธรรม จัดที่ดิน การบริหารจัดการชุมชนที่ผิดกฎหมาย ใช้รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ กองทุนเพื่อสังคม แก้ปัญหาล็อตเตอรี่ ล็อตเตอรี่ใครแก้ได้บ้างล่ะ เพราะวันแรกก็บ่นทุกวัน พอแก้ได้ก็เอาอีกแล้วไม่สนใจ วันนี้จะกลับมาใหม่อีกแล้ว เพราะเราไม่สนใจสิ่งที่มันเหมือนมันไม่มีค่า ทำให้กระแสสังคมไม่ตอบรับในการทำงานของรัฐบาลทุกอย่าง เพราะอะไรล่ะครับ อย่าเอาเวลาที่เคยทำมาแล้ว อย่าเอาสิ่งที่เคยทำมาแล้วกับทุกรัฐบาล มาใช้กับรัฐบาลนี้ เพราะรัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อแก้ไขเพื่อปฏิรูป ไม่ได้เข้ามาเพื่อสนองความต้องการของใครบางคนบางกลุ่ม ไม่ใช่ ผมต้องการสนองกับประชาชนทั้งประเทศ 70 ล้านคน เพื่อวางรากฐานวางอนาคต การจัดระเบียบบ้านเมือง ความสะอาด การจราจร รถตู้ให้ดี พอเริ่มดี เดี๋ยวก็กลับมาใหม่ รายได้ลด ประชาชนไม่สะดวก จะเอาอย่างไรกันแน่ เอาสองอย่างพร้อมกัน แล้วใครจะทำให้ได้ วันหน้าก็เกิดขึ้นมาอีก ก็เกิดซ้ำ เกิดซ้ำไปอีก ก็มีผลประโยชน์คอร์รัปชั่น ก็มีเหมือนเดิม บางอย่างต้องตัดใจบ้าง ยอมรับฟัง ลดลงบ้าง ไม่มีอะไรได้มาเปล่า ๆ ฟรี ๆ โดยไม่ต้องลงทุน จำไว้
การบริหารจัดการน้ำ น้ำท่วมน้ำแล้ง ทุกคนจะเอาน้ำหมด บ้านอยู่ดอนก็จะเอาน้ำ บ้านอยู่ต่ำก็จะไม่เอาน้ำ ต้องสร้างระบบขึ้นมาให้ได้ คิดร่วมกัน บริหารจัดการร่วมกัน ทั้งการเกษตรการบริหารจัดการน้ำ ใช้เวลาเป็นสิบปี ในระหว่างนี้ก็ปรับแผนไปเรื่อย ๆ มันเหมาะสมตรงไหน ไม่เหมาะสมตรงไหน โลกเปลี่ยนแปลง วันหน้าน้ำอาจจะมากกว่านี้ ถ้าน้ำมากกว่านี้ก็ต้องปรับแผนได้ ไม่ใช่ผูกพันงบประมาณเป็น 10 ปี แผนทุกบททุกอันที่เขียนแม่บทเป็นยุทธศาสตร์ จะมีงบประมาณในเงินนี้ที่เขียนให้ดูเท่านั้นเอง แต่จะทำเมื่อไรท่านก็ไปทำกันใหม่ จะทำหรือไม่ทำก็เป็นเรื่องของท่าน ผมไม่ได้ผูกมัดงบประมาณทั้งหมดยาวไปทุกเรื่อง ผมจะทำเรื่องที่จำเป็นโดยไม่ต้องพะวงดูหนี้สาธารณะด้วย และไม่ได้ให้เฉพาะใครขอมาให้ ๆ แล้วอะไรล่ะจะสร้างความเข้มแข็ง อะไรที่จะอยู่กับผืนดิน ที่จับต้องได้บ้าง หมดไปเท่าไร จ่ายเงินอะไรด้วยวิธีการที่ผ่านมา วันนี้จะให้รัฐบาลนี้ลดหนี้ลดต้นให้เขา ไม่ใช่หน้าที่ของผม คนตัดสินใครผิดใครถูกมากน้อยไม่ใช่ผม กระบวนการยุติธรรม กรรมการ ไปว่ามา
เรื่องการศึกษา ก็ดีขึ้นตั้งเยอะ เห็นไหม มีคนบอกการศึกษาไม่ดีขึ้น เขาทำอะไรบ้างเห็นไหม 100 กว่าเรื่อง ไม่เคยมีระบบแบบนี้มาเลย ก็ต้องใช้มาตรา 44 เข้ามาให้เขาสั่งการได้ ไม่ได้ไปรังแกใคร ไอ้คำว่ารังแก คำว่าอะไรต่าง ๆ ใช้อำนาจ จะใช้เพื่อใครล่ะครับ เพื่อผมหรือ เพื่อท่านรัฐมนตรี ท่านรองนายกรัฐมนตรีหรือ เพื่อคนทุกคน คิดแบบนี้ บางทีก็เสียใจนะ ฟังบางทีวิพากษ์วิจารณ์ ผมก็เสียใจ จะทำไปทำไม ทำให้ใคร ในเมื่อทุกคนก็ไม่ต้องการนี่ ทุกคนต้องการความวุ่นวายสับสนอลหม่านเหมือนเดิม ผมจะทำไปทำไมล่ะ ก็ปล่อยไปเหมือนเดิม แต่ผมทำไม่ได้ เพราะแผ่นดินนี้เป็นของคนไทยทุกคน จำไว้นะ อย่าให้ใครเขามาแยกแผ่นดินของท่าน ตัวท่านเองก็อย่าไปหลงตามเขาไปด้วย
สาธารณสุขพื้นฐาน รัฐสวัสดิการ อินเทอร์เน็ต ทุกคนอยากได้เงินเพิ่ม 600 เป็น 1,000 เป็น 2,000 / 3,000 เอาเงินที่ไหนล่ะ แล้วที่พูดเมื่อสักครู่นี้เกิดขึ้นได้ไหม ลงทุนทั่วประเทศเกิดขึ้นได้หรือยัง ยังไม่ได้ทำแล้วจะเอาเงินจากไหนล่ะ ให้ได้เท่าไรก็ให้เท่านั้นไปก่อน ทำไมไม่รอล่ะ ไม่อดทนบ้างล่ะ ทุกคนจะเอาให้หมดภายใน 2 ปี ปัญหา 100 ปัญหาแก้ให้หมด 2 ปีแล้วไปได้เลย แล้วอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย ความคิดเป็นอย่างนี้หรือ ไม่ต้องไปไหนหรอกครับถ้าคิดแบบนั้นก็อยู่ที่เดิม วันนี้ต้องไปหาให้เจอ ผมถึงบอกตั้งแต่ต้นว่าต้องหากันให้เจอ ว่าที่ทำมาวันนี้ รายได้น้อยได้อะไรไปบ้าง ปานกลางได้อะไรไปบ้าง ข้างบนได้อะไรไปบ้าง แล้วทั้งหมดห่วงโซ่ทั้งหมดเกื้อกูลกันได้สักกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ถ้าอย่างนั้นละครับมันถึงจะดีขึ้น ๆ ถ้าห่วงโซ่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์เมื่อไร ข้างล่างก็ดี ตรงกลางก็ดี ข้างบนก็ดี เชื่อมไปต่างประเทศ ไปโน่น ต้องคิดแบบนี้
การส่งเสริมการลงทุน บีโอไอ Ease of doing business 10 หัวข้อ ทำเท่าไรแล้วครับ วันนี้ประชาชนบอกคอร์รัปชั่นแก้ไปแล้ว เห็นยังมีอยู่เลย ยังต้องไปจ่ายเงิน 1,000 บาท 3,000 บาทตรงนั้นตรงนี้ นั่นมันขี้ปะติ๋ว ให้เขาทำไม ให้ทำไมล่ะ ทำผิดหรือเปล่า ถ้าทำผิดอยากให้เขาก็โง่เอง มาฟ้องผม จ่ายที่ไหนไม่รู้ มาบอกว่ารัฐบาลนี้ก็ทุจริตเหมือนเดิม อะไรคือเหมือนเดิม คดีกี่คดีในศาล ค่าเสียหายเท่าไร ยึดทรัพย์เท่าไร กระบวนการตามกฎหมาย ไม่ดูตรงนี้ล่ะครับ ไปดูกระจ๊อกกระแจ๊กข้างล่างแล้วบอกยังมีทุจริตเหมือนเดิม รัฐบาลนี้ดีแต่พูด มันน่าเสียใจไหมล่ะครับ ระบบทางราง ทำทั้งหมดครับ ทางเรือ ต่อไปการเดินเรือเส้นทางพัทยา-หัวหิน/สัตหีบ-หัวหิน เรือชายฝั่งท่องเที่ยวไปเวียดนาม ลาว กัมพูชา โน่น ต้องคิดแบบนั้น เรือครูซขนาด 5,000 ห้อง เขาต้องมาเทียบท่าเรือ แล้วท่าเรือพร้อมหรือยัง ทำหรือยัง ก็ยัง วางแผนอยู่ ศึกษาอยู่ เอาเงินมีไหม ยัง แต่คิดไว้หมดแล้ว เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ท่านจะเลือกตั้งแล้วเข้ามาทำแล้วกัน
วันนี้สนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ก็เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทำศึกษาตั้งแต่ปี 2553 ที่ดี ๆ ไม่พูด ไม่สนใจ การทำให้สนามบินสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสาร 83 ล้านคน ให้เป็น 190 ล้านคนต่อปี แล้วมีเฟส 3 เฟส 4 ก็วางไว้ให้หมด ไปทำกันเอาเอง อู่ตะเภาก็ต้องพัฒนาเชื่อมโยงเมื่อสักครู่นี้ แล้วมาเชื่อมโยงสู่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก กฎหมายพวกนี้อย่าลืม ประชาชนทุกคนดูนะครับ เขามี พ.ร.บ. แล้ว ข้าราชการระวังตัว อย่าไปเรียกเงินส่งเดช ผมจะบอกให้ ก็ไปฟ้อง ไปศูนย์ดำรงธรรม ร้องเรียนขึ้นมา ไปต่อเติมอาคาร ปรับแบบ เสียเงิน ไปบอกเขาศูนย์ดำรงธรรม แจ้งขึ้นมา เขาตรวจสอบให้หมด วันนี้มาตรการทางภาษีที่ไม่ใช่ภาษี การปรับโครงสร้างภาษีก็ต้องศึกษาทำไปเรื่อย ๆ เมื่อไรที่มีความพร้อม ก็จะแก้ได้ทั้งระบบ ไม่คิดกันไว้เลยหรือ ไม่คิดจะเสียสละกันเลยหรืออย่างไร ไม่เสียสละเอาภาษีไปให้กับคนจน ให้เขาสามารถเข้ามาอยู่ในระบบภาษี ให้เขาเสียภาษีได้บ้าง ประเทศอยู่ไม่ได้หรอกครับถ้าอยู่ด้วยคน 10 กว่าล้านคน จะพัฒนาอะไรได้ รายได้ ขณะนี้ยังได้ขนาดนี้เลย คน 10 กว่าล้านคนเสียภาษีเต็มที่ ก็ทำให้ที่เหลือเขาเข้าระบบให้ได้ก็แล้วกัน วันนี้ฐานเงินเดือนก็ได้เท่านี้ก่อน ทำให้เท่าเทียมกัน เขตเศรษฐกิจพิเศษก็เริ่มไปเรื่อย ๆ วางแผนไปสู่อนาคต เคยพูดไปแล้ว อุตสาหกรรม สิทธิประโยชน์ทุกคนกลัวว่า 300% มากเกินไปหรือเปล่า บางคนเขาให้มากกว่า 300% คือ 1000% ก็ไปหมด แล้ว 300% อะไรล่ะ ก็ให้ในสิ่งที่เขายังไม่ได้ทำ สิ่งที่ประเทศยังไม่มีรายได้เลยจากตรงนี้ ไม่ให้เขาเลยก็ไม่ได้เหมือนเดิม เหมือนขุดเจาะน้ำมัน ไม่ได้ขุดเจาะก็อยู่ที่เดิม 1,000 ปีก็อยู่ที่เก่า ต้องเริ่มทุกอย่างให้ได้ เราต้องใช้ความเป็นศูนย์กลางของอาเซียนให้ได้ ทางกายภาพ ทางภูมิรัฐศาสตร์
ทางเลือกพลังงานผมไม่ได้ขัดแย้งกับท่าน ผมถามว่าพลังงานหลักคืออะไร ก็ต้องมาจากน้ำมัน แก๊ส ถ่านหิน ที่เสถียรภาพ มีความเสถียร แล้วพลังงานทดแทนมีไว้เสริม มีไว้ทดแทน นี่จะเอาพลังงานทดแทนมาเป็นพลังงานหลักทั้งหมด ทำได้ไหมล่ะครับ ต้นทุนสูงไหม ค่าไฟจะสูงขึ้นทั้งประเทศไหม เพราะมันเฉลี่ย ทำได้ไหมละครับ ถ้าจะเอาอย่างนั้นหรือไม่ยาก ถ้ารัฐบาลเอาง่าย ๆ พลังงานทดแทนใช่ไหม คุณทำเสร็จแล้วคุณขายของคุณ ราคาค่าไฟต่อหน่วยเท่าไร คุณลองจ่ายดูแล้วกัน วันนี้บาทกว่า ๆ ถ้า 3-4 บาทคุณยอมไหมล่ะ ทุกคนมุ่งหวังจะสร้างมาแล้วก็ขายเข้าระบบ ๆ ใช้ฟรีเท่านี้ ให้ 5-6 บาท ขอ 8 บาท คือขอไปแบบไม่มีอะไรทั้งสิ้น อยากได้เท่านี้เท่านั้น แล้วบอกรัฐบาลไม่สนับสนุน ไม่ส่งเสริม ก็ปรับมาแล้วจาก 60/40 ในแผน PDP พลังงาน 70/40 เป็น 60/40 60 มาจากอินทรีย์ พลังงานมาจากทางโน้น 40 มาจากพลังงานทดแทน แต่ทั้งหมดจะต้องเข้ากติกาตรงนี้ ไม่อย่างนั้นทุกคนก็ขาย ๆ ๆ ขายทั้งหมดแล้วมันเสถียรไหม เอาไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมได้ไหมวันนี้ เพราะไม่เสถียร แบตเตอรี่อะไรต่าง ๆ อายุใช้งานก็อยู่จำกัด ต้องสร้างความสมดุลพลังงานทางเลือก จะมีแค่ไหนอย่างไร ไม่ได้ไปปิดกั้นท่าน ไปดูกติกาเขา ทุกคนจะเอาทุกอย่าง ให้ไม่ได้หรอก ไปดูสิว่าถ้าขอแล้วไม่ให้เพราะมันทุจริต มาบอกผม เศรษฐกิจใหม่ทั้งหมด ตลาดใหม่เปิดไม่รู้เท่าไรแล้ว บางคนบอกรัฐบาลนี้ไม่เห็นทำอะไรเศรษฐกิจ เห็นใจกันบ้างสิครับ เดินทางเครื่องบินไปกี่ครั้งแล้ว ถามสิพาณิชย์ไปหมด ผมก็ไป เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายขนาดไหน เครื่องบินจะตกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยังมาทวงต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้
ตลาดใหม่ บีโอไอ มาตรการ อย่าไปบอกว่าให้เช่าที่ดินแล้วจะต้องเป็นของคนอื่น แล้วก็อยู่ไปเน่า ๆ ไปสิครับ ไม่เกิดผลประโยชน์อะไรจากที่ดินที่มีอยู่เลย ไม่มีผลประโยชน์เกิดจากที่ดินสองข้างทางรถไฟ จะแช่อยู่อย่างนี้หรือ มูลค่าเท่าไร ถ้าไม่ลงทุนจะเกิดอะไรขึ้นอีกเท่าไร เกิดการจ้างงานเกิดธุรกิจอีกเท่าไร ห่วงโซ่ทางธุรกิจจะเกิดต่อเนื่องอีกเท่าไร คิดแบบนี้ อะไรที่ต้องแก้ก็ต้องแก้ เพราะอยู่แบบเดิมไม่ได้แล้ว ไปดู G20 ไปดู G77 ดูว่าเขาคิดอะไรกันบ้าง ไม่ใช่คิดอยู่ที่เดิม ย่ำเท้าที่เก่า ทะเลาะเบาะแว้งกันเหมือนเดิม จับผิดจับถูกกันอยู่เหมือนเดิม วันนี้ไม่ใช่รัฐบาลปกติ ไปจับผิดรัฐบาลเลือกตั้งโน่น การเตรียมการสู่อนาคต พ.ร.บ.งบประมาณ วันนี้ก็ต้องไปทำงบประมาณใหม่ ทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น งบ Function กับงบ Agenda คืองบตามนโยบาย ต้องดึงกันออกมา ลดค่าใช้จ่ายงบรายจ่ายประจำ ค่าตอบแทนให้ชัดเจน งบประมาณ Function ที่เป็นพื้นฐานอยู่แค่นั้น ที่เหลือมาอยู่งบกลาง นโยบาย หรืองบที่จะแยกแค่ไหนตรงนี้ เพราะจะต้องอยู่ในงานสาธารณูปโภคพื้นฐาน เศรษฐกิจ ลงทุนเหล่านี้ จะอยู่ในกลุ่มงานนี้ ทุกกระทรวงต้องมาร่วมกันทำตรงนี้ ไม่ใช่กระทรวงนี้ไปทำเอง ต้องอยู่ในฐานแผนงานอันเดียวกัน มีใครเคยคิดไหม มีใครเคยกล้าทำไหม แล้วทุกคนคือฟันเฟือง รัฐบาลเป็นแต่เพียงเหมือนกับพ่อบ้าน มีลูกหลายคน เหมือนเป็นรถยนต์สักคัน กำลังเปลี่ยนเครื่องอยู่ เปลี่ยนเครื่องจากรถเต่า รถช้า ๆ เป็นรถสปอร์ตทีเดียวได้ไหมล่ะ ก็ต้องมาเปลี่ยนเครื่องให้ความเร็วมากขึ้น กินน้ำมันน้อยลง ต้องเปลี่ยนทั้งนั้น ทุกคนคือฟันเฟือง ในการบริหารประเทศขับเคลื่อนประเทศ ทุกคนทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลัง ช่วยเหลือให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ ให้กำลังใจกันบ้าง เป็นกำลังเสริม ถ้าไม่คุยไม่ฟัง ไม่ยอมรับ ไม่รับความเห็นต่าง ไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ ก็ถกกันอยู่แบบนี้ เวลาพูดจะเอาทุกที ประชาธิปไตย ประชาชน ก็ประชาชนเขาผ่านประชามติ บอกไม่ถูกต้อง มันพูดเอาดีเข้าข้างตัวเองหมด อันไหนเสียไม่เอา แล้วท่านจะมาขยายความให้เขาทำไม อันไหนไม่ดีก็บอกมา อย่าไปเขียนโดยที่ไม่มีข้อมูล
พี่น้องสื่อมวลชนมีความสำคัญ เป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างรัฐบาล เป็นผู้ส่งสารให้กับประชาชนเป็นผู้รับสาร ฉะนั้นสื่อมวลชนต้องรักษาความเป็นกลางในการเสนอข้อมูลข่าวสารตรงไปตรงมา มีจรรยาบรรณ เหมือนรัฐบาลกำลังทำให้มีธรรมาภิบาลอยู่นี้ ทุกคนต้องช่วยกันทำเพื่อลูกหลานของท่าน ถ้าไม่มีลูกก็แล้วไป ใครไม่มีก็ไม่ต้องทำ เพราะฉะนั้นเหลือเวลาอีกปีเศษนะครับ รัฐบาลใหม่ตามโรดแมปก็มีไปตามนั้น ไม่ต้องมาตีกันไปตีกันมา สปท. เขาก็ทำงานของเขา เขาส่งมา 42 เรื่อง ผมทำไป 37 เรื่องแล้ว แล้วที่เหลือก็ใส่แผนเข้ามา มีแผนปฏิรูปทุก 5 ปี มีแผนสภาพัฒน์ฯ ทุก 5 ปี มียุทธศาสตร์ 20 ปี มีแผนแม่บทวางไว้ทุกอัน ก็สุดแล้วแต่รัฐบาลต่อไปจะทำหรือไม่ทำ จะเลือกอันไหนมาทำ หรือไม่ทำเลยก็ได้ เป็นเรื่องของท่าน เพราะท่านเป็นคนเลือกเขาเข้ามา อยากให้ทุกคนได้เคารพซึ่งกันและกัน มีส่วนในการนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน กลับมาเป็นบ้านที่แสนสุข สร้างบ้านหลังใหม่ เสริมฐานรากให้เข้มแข็ง ด้วยการดูแลประชาชนที่มีรายได้น้อย เพราะเป็นฐานรากของบ้าน เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อยทุกอาชีพ มีใครเคยไปดูไหม ผมสั่งบอกว่าต้องไปหาเงินให้กับคนรายได้น้อย อาชีพอิสระ วันนี้กระทรวงแรงงานกำลังหามาตรการ มอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ใช่ ทำงานบ้านก็ใช่ อะไรก็ใช่ แล้วดูแลเขาหรือยัง วันนี้ผมก็ดึงไปสู่กระทรวงแรงงานให้ไปดูเรื่องประกันสังคมเพิ่มเติมให้ ทั้งในระบบและนอกระบบ นี่ไปดูตรงนี้ ถ้าบอกว่าทุกคนไม่มีสตางค์ จะมีได้อย่างไรผมไม่เห็นมีอะไรเพิ่มขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้นผมเห็นใจเข้าใจ พยายามจะทำทุกอย่างเพื่อประชาชน ผมใช้คำว่าเพื่อประชาชน เพราะทุกคนคือคนไทยทั้งสิ้น คนไทยบนผืนแผ่นดินไทย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นั่นคือหัวใจของความเป็นไทยของเราทั้งประเทศ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
---------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th