วันนี้ (23 ก.ย. 59) เวลา 08.00 น. ณ ห้องประชุมวอเตอร์เกทบอลลูม ชั้น 6 โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพมหานคร นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ได้เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาเครือข่าย กขร. เพื่อพัฒนาการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2559 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและยกระดับการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้พัฒนาและเพิ่มพูนทักษะในด้านบทบาท ภารกิจ การติดตามขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความคิดเห็นและประสบการณ์ในการปฏิบัติงานร่วมกัน และเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพของเครือข่ายการประสานงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) อันจะส่งผลให้การดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลบรรลุเป้าหมายเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป จัดโดยกองประสานงานนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีเครือข่าย กขร. จากภาคส่วนต่าง ๆ อาทิ ผู้แทนส่วนราชการที่เป็นกรรมการและผู้ประสานงาน กขร. ผู้แทนส่วนราชการที่ได้รับมอบหมายให้ติดตามขับเคลื่อนแผนการปฏิรูป (Mr. Reform) ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ ผู้ปฏิบัติงาน กองประสานงานนโยบายและยุทธศาสตร์ และข้าราชการของกอง/ศูนย์/สำนัก ในสังกัดสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงาน
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การบรรยายในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” โดย ดร.บัณฑูร เศษรฐศิโรตม์” และการบรรยายหัวข้อ “การขับเคลื่อนการพัฒนาภายใต้กรอบการพัฒนาที่ยั่งยืน Sustainable Development Goals : SDGs” โดย นางสาวลดาวัลย์ คำภา รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ การระดมความคิดเห็น เรื่อง “การปฏิรูปและขับเคลื่อนระยะเร่งด่วนในปี 2560” โดยได้รับเกียรติจาก นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายชูชัย ศุภวงศ์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และนายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เป็นต้น
โอกาสนี้ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดการสัมมนาและมอบนโยบายทิศทางการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศว่า กขร. ถือเป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญของรัฐบาลในติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การดำเนินงานต่าง ๆ ปรากฏผลออกมาเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนและทำให้รัฐบาลสามารถขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือห้วงเวลาที่เหลือต่อจากนี้ของบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ประมาณ 1 ปีกว่า กขร. และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะมีแนวทางการดำเนินการรับมืออย่างไรในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้แต่ละกระทรวงและส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งผู้แทนส่วนราชการให้เป็นผู้ประสานงานติดตามขับเคลื่อนแผนการปฏิรูป (Mr. Reform) ซึ่ง Mr. Reform เป็นการดำเนินการที่เกิดขึ้นจากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงประสานการดำเนินการร่วมกับ กขร. ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และเป็นพลังขับเคลื่อนงานของรัฐบาล ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี และการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศให้บรรลุผลสำเร็จตามที่รัฐบาลได้วางเป้าหมายไว้
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำงานของ กขร. ในระยะที่ 1 ว่าเป็นการทำงานบนพื้นฐานของรัฐธรรมนูญแห่งราชการอาณาจักรไทย พ.ศ. 2557 (ฉบับชั่วคราว) รวมทั้งทำงานบนพื้นฐานนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องการแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างเรื้อรังมานาน และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วน ทั้งเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง เป็นต้น ส่วนระยะที่ 2 นอกจากยังต้องทำงานของช่วงระยะที่ 1 แล้ว กขร. ต้องทำงานกับวาระปฏิรูป 37 วาระ ซึ่งแตกออกมาเป็นจำนวน 100 กว่าเรื่อง ของ สปช. และ สปท. ที่ได้ศึกษาและให้ข้อเสนอแนะส่งมายังรัฐบาล ในช่วงที่ 2 จึงมีงานเรื่องการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเข้ามาเพิ่มภารงานให้กับรัฐบาลแต่จะส่งผลดีต่อประเทศไทยในอนาคต
และช่วงที่ 3 คือ จากวันนี้เป็นต้นไปจนสิ้นสุด Road Map ของรัฐบาล ก่อนส่งต่องานให้กับรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ยังมีงานอีกหลายอย่างที่จะต้องทำ ซึ่งเป็นเหมือนพันธกรณีที่จะต้องเข้าไปศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะที่เป็นส่วนราชการ คือเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่ทุกคนต้องไปอ่านและศึกษารายละเอียด โดยเฉพาะในหมวดที่ 5 หมวดที่ 6 และหมวดที่ 16 การปฏิรูปประเทศ ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่จะเป็นฐานข้อมูลสำคัญประกอบในการทำงานและจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนางานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล โดยการสร้างความรู้ความเข้าใจในยุทธศาสตร์ กลไก และกระบวนการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องเชื่อมโยงสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี การปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และการขับเคลื่อนการพัฒนาภายใต้กรอบการพัฒนาที่ยั่งยืน Sustainable Development Goals : SDGs” ซึ่งวันนี้เป็นต้นไปทุกคนต้องอยู่กับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจว่ายุทธศาสตร์ 6 เป็นอย่างไร รวมทั้งต้องเข้าใจแผนและการปฏิรูปเพื่อนำไปปฏิบัติ ซึ่งทุกคนต้องอยู่กับการพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะเป็นฐานที่สำคัญสำหรับทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าและมีความเข้มแข็ง มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
สำหรับการจัดการสัมมนาเครือข่าย กขร. เพื่อพัฒนาการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2559 ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับ Mr. Reform ทุกคนให้ได้ทราบถึงกลไกการเชื่อมโยงประสานการดำเนินการร่วมกับ กขร. และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าภายหลังจากการสัมมนาแล้ว Mr. Reform จะเข้าใจถึงบทบาทของตนเองในการทำงานในห้วงเวลาที่เหลืออยู่ประมาณ 1 ปีกว่า โดย กขร. และผู้ประสานงานติดตามขับเคลื่อนแผนการปฏิรูป (Mr. Reform) ต้องทำงาน 2 เรื่องคือการบริหารราชการแผ่นดินและการปฏิรูปประเทศไปพร้อมกันให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
ทั้งนี้ บทบาทหน้าที่ Mr. Reform มีดังนี้ 1) เชื่อมโยงและประสานข้อมูลการดำเนินงานและความเห็นระหว่างรัฐบาล สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และหน่วยงานขับเคลื่อนการปฏิรูป เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 2) นำเสนอประเด็นที่เป็นปัญหาอุปสรรค เสนอผ่านกลไกการดำเนินงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน (กขป.) ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และคณะกรรมการประสานงานรวม 3 ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) โดยผ่านคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) 3) สรุปรายงานความคืบหน้า ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะการปฏิรูปในส่วนที่เกี่ยวข้องเสนอหน่วยงานต้นสังกัด คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน (กขป.) และ คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) โดยให้ประธาน กขร. พิจารณานำกราบเรียนรายงานนายกรัฐมนตรีทราบความก้าวหน้าในการดำเนินงาน 4) ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย
-----------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th