รมต.นร. เป็นประธานเปิดงานสัมมนาเชิงวิชาการ เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์กับความมั่นคง เพื่อร่วมกันดำเนินงานด้านความมั่นคงชาติ และเป็นแนวทางปฏิบัติแก่ส่วนราชการให้มีประสิทธิผลสูงสุด
วันนี้ (29 กันยายน 2559) เวลา 09.20 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรีมอบหมาย หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง "สถาบันพระมหากษัตริย์กับความมั่นคง" จัดโดย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อร่วมกันดำเนินงานด้านความมั่นคงชาติ และเป็นแนวทางปฏิบัติแก่ส่วนราชการให้มีประสิทธิผลสูงสุด โดยมีผู้ร่วมงานประกอบด้วย องคมนตรี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย พลเอก จรัล กุลละวณิชย์ สื่อมวลชน และผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานจำนวนประมาณ 300 คน
โอกาสนี้ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงานว่า ในนามของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีขอกล่าวขอบคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย ที่เป็นผู้ร่างนโยบายแผนงานความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์กับความมั่นคง สำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น มีความสำคัญ และผูกพันกับสังคมไทยมาโดยตลอด ในฐานะที่ทรงมีคุณูปการต่อความมั่นคงของชาติ ที่ส่งนำพาประเทศชาติให้อยู่รอดปลอดภัยเป็นศูนย์กลางความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ เป็นศูนย์รวมจิตใจ และยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามเกิดวิกฤตการณ์ เช่น การนำพาประเทศไทยให้รอดพ้นจากการเป็นประเทศราชของชาติตะวันตก และในช่วงสงครามเย็นที่ประเทศไทยประสบปัญหาภัยคุกคามจากระบอบคอมมิวนิสต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้พระปรีชาสามารถ และพระอัจฉริยภาพในการแก้ปัญหาจนกระทั่งรอดพ้นจากปัญหาดังกล่าวได้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชกรณี ยกิจด้วยพระราชหฤทัยที่มุ่งมั่น เสียสละ เพื่อประชาชนและประเทศชาติ ให้มีความมั่นคง สถาพรมาตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติ นอกจากนี้ พระราชดำรัส และพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานไว้ในโอกาสต่าง ๆ ถือได้ว่าเป็นแบบอย่างที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อวิธีคิด และวิธีดำเนินชีวิตของประชาชน ตลอดจนวิธีดำเนินงานด้านความมั่นคงของประเทศ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลรับผิดชอบเรื่องความมั่นคงของประเทศ ที่ได้ตระหนัก ถึงความสำคัญของการธำรง ไว้ซึ่งความมั่นคงยั่งยืนของสถาบันพระมหากษัตริย์ และได้จัดทำแนวทางการรักษาความมั่นคงสถาบันหลัก ของชาติ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยตอนท้าย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการคาดหวังว่างานในวันนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นจิตสำนึกของประชาชนในสังคมไทย เพื่อให้รำลึกถึงคุณูปการของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยที่มีต่อประเทศชาติ และประชาชนมาอย่างยาวนานด้วย
-----------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th