วันนี้ (วันที่ 4 ตุลาคม 2559) เวลา 18:30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพพิธีเลี้ยงต้อนรับแก่คณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอนและสมาคมกีฬาจากการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 15 ณ ริโอ เดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ และมอบเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย และเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 15 ในฐานะที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ โดยมี คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้บริหารการกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ และผู้แทนสมาคมกีฬา มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวรายงาน และสรุปผลการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ฯ ว่า นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวรายงาน และสรุปผลการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ฯ ว่า ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 15 ณ กรุงริโอ เดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล จัดการแข่งขันวันที่ 7 - 18 กันยายน 2559 ตัวแทนประเทศไทยได้เข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 45 คน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของการแข่งขัน นักกีฬาได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถ ความมุ่งมั่นทุ่มเท ความตั้งใจอย่าวเต็มกำลัง จากการได้รับกำลังใจจากพรรคประชาชนชาวไทยอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยนักกีฬาไทย ได้ประสบ ความสำเร็จได้รับรางวัล 6 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน และอีก 6 เหรียญทองแดง และประเทศไทยได้จบที่อันดับ 23 ของโลก จากประเทศที่ร่วมเข้าการแข่งขัน 159 ประเทศ ผลงานดังกล่าว ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศเป็นอย่างยิ่ง รัฐบาลจึงจัดงานพิธีเลี้ยงต้อนรับแก่คณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอนและสมาคมกีฬาจากการแข่งขัน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจต่อไป
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบของที่ระลึกแก่ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกเกมส์แห่งประเทศไทย และมอบโล่เกียรติคุณ เงินรางวัล ให้แก่นักกีฬาและผู้แทนสมาคมกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิคเกมส์ฯ พร้อมกล่าวว่ารู้สึกยินดีกับความสำเร็จและขอชื่นชมที่ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ก่อนเดินทางไปแข่งขันในครั้งนี้ วันนี้ได้เห็นรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจจากนักกีฬาทุกคน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการแข่งขัน ซึ่งนักกีฬาทุกคนควรภูมิใจว่าตัวเองเป็นผู้ที่มีเกียรติ สามารถคว้าชัยชนะกลับมา สร้างชื่อเสียงอย่างมากให้กับประเทศ แต่อยากให้ทุกคนนึกถึงเพื่อนนักกีฬาที่ไม่ได้รับรางวัลด้วย ขอช่วยกันนำคนเหล่านั้นให้ประสบความสำเร็จไปพร้อมกัน เรียนรู้ร่วมกัน เพื่อก้าวไปครั้งหน้าอย่างพี่น้อง และตั้งความหวังไปให้ไกลด้วยกำลังใจ ถึงแม้ศักยภาพทางร่างกายของ นักกีฬาจะมีน้อยกว่าคนที่มีร่างกายสมบูรณ์ก็ตาม แต่ทุกคนก็สามารถแสดงให้เห็นถึงกำลังใจที่ดีได้อย่างเต็มที่ และนักกีฬาทุกคนได้ สร้างชื่อเสียงภาพลักษณ์ที่ดีงามให้กับประเทศอย่างมาก
ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากในการได้ชัยชนะกลับมา แต่ก็เรื่องที่ยากยิ่งกว่าก็คือการรักษาชัยชนะไว้ รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนในด้านกีฬาอย่างเต็มกำลัง เพราะกีฬาหรือเป็นภาพลักษณ์ของประเทศที่สามารถแข่งขันเชื่อมความสัมพันธ์ในระดับนานาชาติได้อย่างดี และกีฬายังเป็นสื่อสร้างสรรค์ทุกอย่าง เพราะฉะนั้น นักกีฬาทุกคุณควรมุ่งมั่นไปข้างหน้าต่อไป อย่าท้อถอย ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด พัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเริ่มต้นที่ตัวเองก่อนใช้ศักยภาพที่ดีของตนเองให้มากที่สุด ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นความภาคภูมิใจให้กับลูกหลานในวันข้างหน้า รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแลทุกคน ทั้งในด้านครอบครัว การประกอบอาชีพ สวัสดิการต่าง ๆ อย่างทั่วถึง รวมถึง จัดเก็บบันทึกเรื่องราวเป็นประวัติศาสตร์ของชัยชนะทั้งหมดไว้เป็นที่จดจำ เพื่อให้นักกีฬาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขเท่าเทียมกับทุกคน
ตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณคณะทีมงานที่ช่วยนำพาให้นักกีฬาเหล่านี้ประสบความสำเร็จ พร้อมฝากนักกีฬาทุกคน ให้นำกีฬาเป็นแรงขับเคลื่อนประเทศพัฒนาไปให้ไกลต่อไปในอนาคต
จากนั้น นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ผู้บริหาร การกีฬาแห่งประเทศไทย และนักกีฬาฯ ถ่ายภาพหมู่รวมกันเพื่อเป็นที่ระลึก ก่อนรับประทานอาหารร่วมกัน
--------------------------------------------------
สำนักโฆษก
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ที่มา: http://www.thaigov.go.th