วันนี้ (9 ต.ค. 59) เวลา 14.45 น. นายเชอริ่ง ต็อบเกย์ (Mr. Tshering Tobgay) นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 2 ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยพลโทวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบกับนายกรัฐมนตรีภูฏานอีกครั้ง และแสดงความขอบคุณภูฏานที่ได้รับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อย่างสมพระเกียรติเมื่อเดือนพฤษภาคม เชื่อว่าการเสด็จฯ เยือนภูฏาน ของพระองค์จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ไทยมีความยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสถวายการต้อนรับพระราชวงศ์ของภูฏานในโอกาสเสด็จเยือนไทยอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งสองฝ่ายยินดีในความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกันซึ่งเป็นไปอย่างราบรื่นและใกล้ชิดตลอดระยะเวลากว่า 27 ปี นับตั้งแต่ที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยและภูฏานมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด เนื่องจากทั้งสองประเทศมีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ และมีความคล้ายคลึงในด้านวัฒนธรรม
นายกรัฐมนตรีภูฏานแสดงความชื่นชมโครงการ OTOP ของไทย และกล่าวว่าโครงการหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งผลิตภัณฑ์ (One Gewog One Product-OGOP) ของภูฏานประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยนายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติที่ฝ่ายไทยมีส่วนร่วมในการริเริ่มโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระราชาธิบดีภูฏาน
ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ทั้งสองฝ่ายมุ่งหวังเพิ่มพูนมูลค่าการค้าการลงทุน และยินดีที่การประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-ภูฏาน ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้นประสบความสำเร็จด้วยดี โดยมั่นใจว่าจะเป็นแนวทางสำคัญในการขยายโอกาสความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีหวังให้ภูฏานสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนไทยในภูฏานในทุกสาขาโดยเฉพาะสาขาก่อสร้าง และโรงแรม
ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีภูฏานกล่าวว่าภูฏานยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และหวังให้ชาวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวภูฏานให้มากขึ้น โดยเห็นว่าการท่องเที่ยวจะช่วยกระชับความสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์ รวมถึงความเข้าใจอันดีระหว่างกันในระดับประชาชน
ความร่วมมือด้านการเกษตร ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือด้านการเกษตร เนื่องจากไทยและภูฏานเป็นประเทศเกษตรกรรมเช่นเดียวกัน โดยภูฏานประสงค์ที่จะเรียนรู้และส่งเสริมความร่วมมือด้านวิชาการและการพัฒนาจากไทย และแสดงความชื่นชมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่าไทยพร้อมที่จะให้การสนับสนุนแก่ภูฏานด้านวิชาการเกษตรในทุกสาขา
ก่อนจบการสนทนานายกรัฐมนตรีภูฏานย้ำว่าภูฏานยินดีร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด และหวังเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th