วันนี้(11 ต.ค. 2559) เวลา 15.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทร้พยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หารือทวิภาคีกับนายฮวาง คโย-อัน (Mr. Hwang Kyo-ahn) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมคณะ อาทิ นาย Lim Sungnam ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นาย Lee Young ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และนาย Shim Otaeg เลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ที่เดินทางเข้าร่วมประชุม ACD Summit ครั้งนี้ และยินดีที่ทราบว่าการเดินทางมาครั้งนี้ เป็นการเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากความระลึกถึงและคำขอบคุณไปยังประธานาธิบดีปัก กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้ที่ให้ความสำคัญกับ ACD และกรุณามอบหมายให้นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้เป็นผู้แทนมาร่วมประชุมฯ พร้อมกล่าวย้ำคำเชิญประธานาธิบดีปัก กึน-ฮเย เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควร ทางด้านนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ยินดีกับความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-เกาหลีใต้ที่มีพัฒนาการหลายด้าน และกล่าวขอบคุณที่รัฐบาลไทยให้การต้อนรับเป็นอย่างดี พร้อมชื่นชมรัฐบาลไทยที่ประสบความสำเร็จในการจัดการประชุม ACD Summit ครั้งที่ 2
ด้านการค้าและการลงทุน ผู้นำทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการรื้อฟื้นกลไกการประชุมการค้าร่วม (Joint Trade Commission: JTC) โดยเร็วที่สุด เพื่อหาแนวทางในการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันและแก้ไขปัญหาตัวเลขการค้าระหว่างกันที่ชะงักงันมาแล้วกว่า 5 ปี รวมถึงหารือถึงการดำเนินการเพื่อเปิดตลาดนำเข้าไก่สดแช่เย็นและแช่แข็งจากไทยไปยังเกาหลีใต้ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้เร่งรัดสรุปการจัดทำ Blueprint แผ่นแม่บทข้อริเริ่มทางความร่วมมือเศรษฐกิจไทย - เกาหลีใต้ ซึ่งจะกำหนดทิศทางในการดำเนินความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน ระยะเวลา 5 ปี โดยขอให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายเร่งจัดทำร่าง Blueprint ให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว
ไทยและเกาหลีใต้ต่างยินดีกับการจัดตั้งคณะทำงานร่วมในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวง จ.หนองคายและอุดรธานี ซึ่งเกาหลีใต้จะให้ความร่วมมือด้านเทคนิคในการบริหารจัดการน้ำในโครงการดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้หวังว่าโครงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำของทั้งสองประเทศ ต่อไปนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสนับสนุนเกาหลีใต้ในการศึกษาเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก แม่สอด - มุกดาหาร รวมทั้งยินดีที่เกาหลีใต้สนใจลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการดาวเทียม THEOS-2 รวมถึงพิจารณาการใช้ยางพาราจากไทย
ความร่วมมือด้านการศึกษา ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ภายหลังจากการหารือ ไทยและเกาหลีใต้จะมีการลงนาม MOU ด้านการศึกษาระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า MOU ดังกล่าวเป็นการยกระดับคุณภาพอาชีวศึกษาและแลกเปลี่ยนบุคลากร ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุค Thailand 4.0 ที่เน้นการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่เกาหลีใต้มีส่วนกับการปฏิรูปประเทศไทยในครั้งนี้ และแสดงความประสงค์ให้เกาหลีใต้ให้ความสนใจและผลักดันให้เอกชนเกาหลีใต้ในไทยมีส่วนร่วมในการพัฒนาบุคลากรทางด้านอาชีวะศึกษาของไทยด้วย
ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรียินดีที่นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย โดยเมื่อปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้เดินทางมาไทยจำนวน 1.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22 จากปีก่อนหน้า ผู้นำทั้งสองฝ่ายหวังว่า ไทยและเกาหลีใต้จะร่วมมือกันส่งเสริมให้ประชาชนของทั้งประเทศเดินทางไปท่องเที่ยวซึ่งกันและกัน รวมถึงเพิ่มเส้นทางการบินระหว่างกันให้มากขึ้นเพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศเดินทางไปมาหาสู่กันมากยิ่งขึ้น ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยจะดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ที่มาท่องเที่ยวในไทยเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ไทยและเกาหลีใต้ยังหารือถึงสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลไทยมีความกังวลเช่นกันในเรื่องการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อสันติภาพและความสงบสุขต่อภูมิภาคเอเชียและต่อโลก ไทยจึงยินดีปฏิบัติตามมติของคณะมนตรีความมั่งคงแห่งสหประชาชาติในการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ภายหลังการหารือนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ดังนี้
(1) ความตกลงในการต่ออายุบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระบบรางไทย - เกาหลีใต้ ซึ่งลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกับเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย และเป็นการต่ออายุความร่วมมือในการพัฒนาระบบรางของไทยผ่านความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับเกาหลีใต้
(2) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาไทย - เกาหลีใต้ ซึ่งลงนามโดยปลัดกระทรวงศึกษาธิการของทั้งสองฝ่าย มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ บุคลากร งานวิจัยระหว่างกัน รวมทั้งพัฒนาระบบอาชีวศึกษาของไทยผ่านการฝึกอบรมโดยเกาหลีใต้
ที่มา: http://www.thaigov.go.th