วันนี้ (22 พ.ย. 59) เวลา 08.00 น. ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวนำคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ พสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศ ปฏิญาณตนเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอย่างพร้อมกันหลังเคารพธงชาติ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขอนำประชาชน ชาวไทยทุกหมู่เหล่า และทุกภาคส่วน ซึ่งชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นี้ ถวายสัตย์ปฏิญาณเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อแสดงความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ปกเกล้าปกกระหม่อมให้ความร่มเย็นเป็นสุขแก่พสกนิกรชาวไทย อีกทั้งทรงบันดาลให้เกิดการพัฒนาประเทศในทุกด้านตลอดมาเป็นเวลาถึง ๗๐ ปี แม้บัดนี้จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่ก็ยังทรงสถิตอยู่ในใจของปวงประชาชาวไทยด้วยความวิปโยคอาลัยอย่างไม่มีวันลืมเลือน ณ วาระนี้ ซึ่งปกติเคยเปล่งสัจวาจา ถวายพระพรชัยมงคลเสมอมา จึงขอตั้งสัตยาธิษฐานถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเครื่องบูชาพระมหากรุณาธิคุณแทนด้วยข้อความดังต่อไปนี้
ข้าพระพุทธเจ้า.....(ออกชื่อแต่ละคนพร้อมกัน).....จะซื่อตรงจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ในพระบรมราชจักรีวงศ์จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้าจะปฏิบัติตามหน้าที่พลเมือง เคารพกฎหมาย รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติเพื่อ การพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งจะร่วมกันปฏิรูปประเทศ และสนับสนุนให้มีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปกครองประเทศด้วยหลักนิติธรรมและธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สุขแห่งประชาชนชาวไทย ข้าพระพุทธเจ้าจะเป็นคนดี มีคุณธรรม ร่วมกันนำพาประเทศชาติ ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน สงบสันติสุข จะรู้รักสามัคคีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชนตลอดไป
ข้าพระพุทธเจ้าขอปวารณาตัวว่า จะพัฒนาตนเอง เพิ่มการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเป็นพลังที่ยั่งยืนในการพัฒนาประเทศต่อไป ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายสัจวาจาว่า จะประพฤติปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาท และศาสตร์ของพระราชา ผู้ทรงธรรม น้อมนำพระราชดำรัส ดำเนินตามพระราชกรณียกิจ และเชิญ
พระราชคุณธรรมจรรยามาเป็นแนวทางการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วยความเพียรอันบริสุทธิ์ เพื่อสืบสานพระบรมราชปณิธาน เพื่อความสุข ความเจริญของปวงข้าพระพุทธเจ้า และเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของราชอาณาจักรไทยสืบไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ”
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและผู้เข้าร่วมพิธี ได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ฯ เป็นอันเสร็จพิธี สำหรับการจัดกิจกรรมรวมพลังแห่งความภักดี เพื่อประกาศความจงรักภักดีและร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในครั้งนี้รัฐบาลได้จัดขึ้นในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพปีที่ 89 โดยจัดกิจกรรมแบ่งเป็น 3 แบบ คือ 1) การทำดีด้วยกาย คือ การจัดกิจกรรมทำความดีเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เช่น ทำความสะอาดสาธารณะสถาน ให้บริการสาธารณะ เยี่ยมคนป่วยไข้ตามโรงพยาบาล อ่านหนังสือพิมพ์ให้เด็กพิการฟัง บำเพ็ญกุศลทางศาสนา การจัดนิทรรศการหรือกิจกรรมอื่น ๆ ดังที่ได้เคยปฏิบัติมาแล้ว 2) การทำดีด้วยวาจา คือ การจัดกิจกรรมปฏิญาณตนเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี หรือเพลงอื่น ๆ ตามความเหมาะสม และ 3) การทำดีด้วยใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนกระทำอยู่แล้ว เช่น การจัดกิจกรรมอธิษฐาน ทำสมาธิสำรวมจิตภาวนาแผ่เมตตาตั้งใจดี
........................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th