วันที่ 15 มีนาคม 2544
วันนี้ เวลา 09.00 น. ณ ห้องสีเหลือง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นาย Jemal-ud-din Kassum รองประธานธนาคารโลก ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เข้าเยี่ยมคารวะ รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ)
ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม 2544 เพื่อเข้าร่วมเป็นองค์ปาฐกในงานสัมมนาเรื่อง “ความร่วมมือในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” ในวันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม 2544 ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ และธนาคารโลก ภายหลังการต้อนรับได้มีการสนทนา สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ)ได้กล่าวถึงงานสัมมนาเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศ ที่รองประธานธนาคารโลกฯจะเป็นองค์ปาฐกด้วยนั้นว่า เป็นเรื่องที่ดี และมีความจำเป็นมากสำหรับประเทศกำลังพัฒนา พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอบคุณที่ธนาคารโลกได้ให้ความช่วยเหลือ ด้านการเงิน และวิชาการแก่ไทย มาโดยตลอด ซึ่งรัฐบาลชุดนี้จะเร่งดำเนินการตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ อาทิ การจัดตั้งกองทุน หมู่บ้าน และชุมชนเมืองหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท เพื่อการพัฒนาการผลิตผลิตภัณฑ์
โอกาสนี้ รองประธานธนาคารโลกฯ ได้กล่าวว่า การดำเนินการของรัฐบาลในการพัฒนาชุมชนต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ดี และการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาชุมชนนั้น ๆ ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งของโครงการต่าง ๆ ของธนาคารโลกคือโครงการการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology-IT) ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดจะเป็นเรื่องของเนื้อหาสาระของข้อมูลข่าวสารนั้น ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความเห็นด้วยว่าสิ่งที่ควรเน้นคือเรื่องของเนื้อหาของข้อมูลให้มากขึ้น โดยที่ผ่านมามีการเน้นเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยี ซึ่งประเทศไทยก็ได้เตรียมพร้อมในการให้ความรู้แก่ประชาชน ผ่านสถาบันการศึกษา โดยการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
รองประธานธนาคารโลกได้กล่าวว่า นอกจากโครงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแล้ว ธนาคารโลกยังมีโครงการในเรื่องของการรักษาสภาพแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งหวังว่าประเทศไทยจะใช้ความได้เปรียบในทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ และดำเนินงานส่งเสริมการรักษาสภาพแวดล้อมอย่างต่อเนื่องโดยธนาคารโลกจะสนับสนุนในเรื่องของความรู้ในด้านการรักษาสภาพแวดล้อมให้กับประเทศไทยได้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลตระหนักดีถึงการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมรักษาสภาพแวดล้อม โดยนายกรัฐมนตรีได้มีแนวคิดที่จะจัดตั้งกระทรวงขึ้นใหม่ เกี่ยวกับด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อทำให้การดำเนินงานในการรักษาสภาพแวดล้อมมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนการปฏิรูปของกฎหมาย การศึกษา ควบคู่กับการพัฒนาด้าน IT ด้วย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาที่รากฐานคือคนในชนบท เพื่อให้การพัฒนาประเทศไทย เป็นไปอย่างยั่งยืน
--สำนักโฆษก--
-สส-
วันนี้ เวลา 09.00 น. ณ ห้องสีเหลือง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นาย Jemal-ud-din Kassum รองประธานธนาคารโลก ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เข้าเยี่ยมคารวะ รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ)
ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม 2544 เพื่อเข้าร่วมเป็นองค์ปาฐกในงานสัมมนาเรื่อง “ความร่วมมือในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” ในวันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม 2544 ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ และธนาคารโลก ภายหลังการต้อนรับได้มีการสนทนา สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ)ได้กล่าวถึงงานสัมมนาเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศ ที่รองประธานธนาคารโลกฯจะเป็นองค์ปาฐกด้วยนั้นว่า เป็นเรื่องที่ดี และมีความจำเป็นมากสำหรับประเทศกำลังพัฒนา พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอบคุณที่ธนาคารโลกได้ให้ความช่วยเหลือ ด้านการเงิน และวิชาการแก่ไทย มาโดยตลอด ซึ่งรัฐบาลชุดนี้จะเร่งดำเนินการตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ อาทิ การจัดตั้งกองทุน หมู่บ้าน และชุมชนเมืองหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท เพื่อการพัฒนาการผลิตผลิตภัณฑ์
โอกาสนี้ รองประธานธนาคารโลกฯ ได้กล่าวว่า การดำเนินการของรัฐบาลในการพัฒนาชุมชนต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ดี และการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาชุมชนนั้น ๆ ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งของโครงการต่าง ๆ ของธนาคารโลกคือโครงการการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology-IT) ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดจะเป็นเรื่องของเนื้อหาสาระของข้อมูลข่าวสารนั้น ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความเห็นด้วยว่าสิ่งที่ควรเน้นคือเรื่องของเนื้อหาของข้อมูลให้มากขึ้น โดยที่ผ่านมามีการเน้นเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยี ซึ่งประเทศไทยก็ได้เตรียมพร้อมในการให้ความรู้แก่ประชาชน ผ่านสถาบันการศึกษา โดยการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
รองประธานธนาคารโลกได้กล่าวว่า นอกจากโครงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแล้ว ธนาคารโลกยังมีโครงการในเรื่องของการรักษาสภาพแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งหวังว่าประเทศไทยจะใช้ความได้เปรียบในทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ และดำเนินงานส่งเสริมการรักษาสภาพแวดล้อมอย่างต่อเนื่องโดยธนาคารโลกจะสนับสนุนในเรื่องของความรู้ในด้านการรักษาสภาพแวดล้อมให้กับประเทศไทยได้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลตระหนักดีถึงการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมรักษาสภาพแวดล้อม โดยนายกรัฐมนตรีได้มีแนวคิดที่จะจัดตั้งกระทรวงขึ้นใหม่ เกี่ยวกับด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อทำให้การดำเนินงานในการรักษาสภาพแวดล้อมมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนการปฏิรูปของกฎหมาย การศึกษา ควบคู่กับการพัฒนาด้าน IT ด้วย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาที่รากฐานคือคนในชนบท เพื่อให้การพัฒนาประเทศไทย เป็นไปอย่างยั่งยืน
--สำนักโฆษก--
-สส-