วันนี้ (27 พฤศจิกายน 2559) เวลา 15.00 น. ณ เวทีกลางบริเวณตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในพิธีปิดงาน “โอทอป ภูมิปัญญาไทย ก้าวไกลสู่สากล” จัดโดยกระทรวงการต่างประเทศและกรมการพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทย ด้วยความร่วมมือของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีนางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองในฐานะประธานกรรมการดำเนินโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษมและผู้บริหารจากกระทรวงการต่างประเทศและกรมการพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทยพร้อมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน ซึ่งผลของการจัดงานเป็นที่น่าพึงพอใจ รายได้กระจายสู่ชุมชนกว่า 60 ล้านบาท
โอกาสนี้ นายกัลยาณะ วิภัติภูมิประเทศ เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ได้กล่าวรายงานสรุปความว่า กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงมหาดไทยด้วยความร่วมมือของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ร่วมกันจัดงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล ภายใต้แนวคิด “โอทอป ภูมิปัญญาไทย ก้าวไกลสู่สากล” ระหว่างวันที่ 3 - 27 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนมาชมงานกว่า 8 หมื่นคน มีรายได้กระจายสู่ชุมชนกว่า 60 ล้านบาท ผลของการจัดงานในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะประชาชนที่มาร่วมงานให้ความสนใจในนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ และพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในด้านการต่างประเทศ ซึ่งพระองค์ได้เสด็จเยือนนานาประเทศเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศและนิทรรศการที่เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก ในส่วนกิจกรรมการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยที่มาร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้าและอาหารประจำชาติคุณภาพดีราคาพิเศษซึ่งนำมาจัดแสดงและจำหน่ายในงาน ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นจำนวนมากเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ รวมถึงกิจกรรมการจัดงานวันลอยกระทงเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาก็ได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากพี่น้องประชาชน
?หลังจากนั้น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวปิดงานว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมเป็นตลาดตามแนวทางประชารัฐ ซึ่งเป็นการจัดงานในครั้งที่ 25 ผลของการดำเนินงานที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง ส่งผลให้พี่น้องประชาชนในบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้าจากผู้ผลิตได้โดยตรง และที่สำคัญยังทำให้เกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้ารายย่อยได้มีแหล่งจำหน่ายสินค้าและช่วยสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมส่งเสริมให้ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของคนกรุงเทพมหานคร และนอกจากนี้ได้กล่าวให้ผู้ประกอบการสินค้า OTOP ช่วยกันพัฒนาต่อยอดสินค้าให้ ออกสู่ตลาดต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อจะได้ช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจในประเทศและในต่างประเทศมีความเจริญรุ่งเรือง และสุดท้ายนี้กล่าวย้ำถึงอนาคตอันใกล้นี้ว่าโลกจะเข้าสู่ยุค Digital economy หรือการซื้อขายสินค้าผ่านทางโลกออนไลน์หรือที่เรียกกันว่า E-Commerce ซึ่งต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวได้เตรียมตัวให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
พร้อมกันนี้ ประธานในพิธีฯ ได้มอบรางวัลประกาศนียบัตรแก่ตัวแทนหน่วยงานและผู้ประกอบการ OTOP รวมทั้งเกษตรกร ที่มาร่วมงานตลอดช่วงของการจัดงาน พร้อมทั้งตัวแทนปลัดกระทรวงทั้ง 2 ดังกล่าวได้ส่งมอบป้ายตลาดคลองผดุงกรุงเกษมให้แก่ประธานในพิธีฯ เพื่อส่งมอบต่อให้ตัวแทนผู้บริหารกระทรวงการคลัง และได้ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก
? อนึ่ง กระทรวงการคลังด้วยความร่วมมือของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีกำหนดจัดงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษมภายใต้แนวคิด “คลังพัฒนาชาติ ตลาดคลองผดุงสร้างชีวิต เสริมสร้างเศรษฐกิจมั่นคง” โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 23 ธันวาคม 2559 ข้างทำเนียบรัฐบาล ระหว่างเวลา 10.00 – 19.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ จึงขอเชิญชวนประชาชนมาร่วมงานดังกล่าว ซึ่งมีรายละเอียดโดยสรุปคือ
สัปดาห์แรก ระหว่างวันที่ 1 - 9 ธันวาคม 2559 จัดเป็นสัปดาห์ “คลังรวมใจถวายองค์พ่อหลวง” เน้นจัดนิทรรศการเกี่ยวกับ “พระมหากษัตริย์กับการออม” ซึ่งสนับสนุนการออมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดบู้ธแลกธนบัตรที่ระลึกและแลกเหรียญกษาปณ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พร้อมอัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์มาเปิดตลอดการจัดงาน อีกทั้งมีการเผยแพร่เอกสารและจัดเจ้าหน้าที่มาแนะนำเกี่ยวกับการให้บริการต่าง ๆ ของกระทรวงการคลัง
สัปดาห์ที่สอง ระหว่างวันที่ 10 - 16 ธันวาคม 2559 จัดเป็นสัปดาห์ “คลังของดี 4 ภาค” โดยเน้นแนวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
สัปดาห์ที่สาม ระหว่างวันที่ 17 - 23 ธันวาคม 2559 จัดเป็นสัปดาห์ “คลังของขวัญวันขึ้นปีใหม่ส่งต่อความสุขจากปีเก่า ต้อนรับสิ่งดีวันขึ้นปีใหม่” เน้นให้บริการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ตรวจเครดิตบูโรฟรี บริการให้คำแนะนำเขียนแผนธุรกิจ พร้อมบริการจัดกระเช้าราคาประหยัดและห่อของขวัญฟรี
ทั้งนี้ ภายใน 3 สัปดาห์ดังกล่าวจะมีบู้ธอาหารปรุงสำเร็จรูป อาหารสด ผักผลไม้ ผลิตภัณฑ์แปรรูป ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสำเร็จรูป ให้บริการตัดผมฟรี พร้อมสาธิตและสอนฝึกการประกอบวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อเป็นอาชีพเสริมและเพิ่มรายได้ให้แก่ครัวเรือนของประชาชนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีอีกด้วย
*******************************
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th