วันที่ 22 สิงหาคม 2544
วันนี้ เวลาประมาณ 10.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะได้เดินทางถึงท่าอากาศยานระหว่างประเทศชางงี สาธารณรัฐสิงคโปร์ จากนั้นได้เดินทางออกจากสนามบินไปยัง Istana เพื่อร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ โดยมีนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ให้การต้อนรับและตรวจแถวทหาร
เกียรติยศตามลำดับ
เมื่อพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการสิ้นสุดลง นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้หารือสองต่อสอง (Four Eyes) เป็นเวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นได้มีการหารือข้อราชการเต็มคณะระหว่างนายกรัฐมนตรีประเทศทั้งสอง โดยคณะฝ่ายไทยประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง)
จากนั้น เวลาประมาณ 13.20 น. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเป็นการส่วนตัว ณ โรงแรม Fullerto ซึ่งภายหลังอาหารกลางวันเวลา 14.40 น. นายกรัฐมนตรีได้แถลงผลการหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า การเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งแรกภายหลังที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของผู้นำประเทศที่ควรจะเยือนประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นภูมิภาคแรก ในการพบปะกันครั้งนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจ การเงิน และภาพรวมของประเทศอาเซียน ซึ่งไทยและสิงคโปร์ได้เห็นชอบร่วมกันที่จะจัดทำยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพื่อประโยชน์แก่ประเทศทั้งสอง แม้ว่าที่ผ่านมาไทยและสิงคโปร์จะมีระบบการแข่งขันซึ่งกันและกัน แต่นับว่าการเกื้อกูลกันนั้นจะมีมากกว่า ดังนั้น ความร่วมมือกันจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญอื่นๆ ที่ได้มีการหารือร่วมกัน โดยเฉพาะด้านการลงทุน โดยไทยได้ให้ความมั่นใจแก่สิงคโปร์ว่า สถานการณ์ทางด้านการเมืองและภาพรวมมีความมั่นคงและอยู่ในสภาวะที่ลงทุนได้ และไทยได้จัดตั้งกองทุนรวม (Matching Fund) ขึ้น เพื่อร่วมลงทุนกับต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในไทยในอัตราสูงสุดถึงร้อยละ 25 และในโอกาสนี้ ไทยและ
สิงคโปร์เห็นพ้องที่จะร่วมมือกันทางด้านการทหาร ซึ่งความสัมพันธ์ที่ผ่านมานับว่าดีมาก และจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้มากขึ้น โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีและกองทัพ ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้กันอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หยิบยกประเด็นภาพลักษณ์ของอาเซียนที่ต่างประเทศมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่มั่นคงทางการเมืองว่า ปัจจุบันสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศในกลุ่มอาเซียนมีความมั่นคงแล้ว ซึ่งต่อจากนี้ อาเซียน จะต้องเรียกความเชื่อมั่นจากต่างประเทศกลับคืนมาและจากนั้นการลงทุนต่างๆ ก็จะกลับคืนสู่ภูมิภาคอาเซียน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวให้ความมั่นใจต่อสิงคโปร์ว่า ไทยได้ดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลยังคงส่งเสริมการส่งออกอย่างเต็มที่และต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ ขณะเดียวกันรัฐบาลก็จะทุ่มเทเพื่อสร้างความแข็งแกร่งภายในประเทศ แก้ปัญหาความยากจนและระบบการเงินพร้อมกันไปด้วย
อนึ่ง ในเวลา 17.15 น. โดยประมาณ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะนายเอส อาร์ นาธาน (Mr. S R Nathan) ประธานาธิบดีสิงคโปร์ ณ Istana และในเวลา 19.15 น จะเข้าเยี่ยมคารวะนายลี กวน ยู (Mr. Lee Kuan Yew) รัฐมนตรีอาวุโส ณ Istana ต่อจากนั้นเวลา 20.15 น. วันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีและคณะ
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 6299292,6299491 โทรสาร 2814450
-สส-