วันนี้ (21ธ.ค.59) เวลา 10.00 น. ณ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดเดินขบวนรถโดยสารชั้น 3 ที่ปรับปรุงใหม่ จำนวน 20 คัน เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการให้มีความสะดวก สบาย สะอาด ปลอดภัยแก่ประชาชน ตลอดจนให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ใช้บริการรถไฟมีโอกาสได้รับบริการระบบขนส่งสาธารณะที่ดีมีคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและพัฒนาความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมเยี่ยมชมขบวนรถโดยสารชั้น 3 ของการรถไฟฯ ที่ปรับปรุงใหม่ ณ บริเวณชานชาลาที่ 4 ประกอบด้วย รถโดยสารชั้น 3 ก่อนการปรับปรุง 1 ตู้ รถโดยสารชั้น 3 หลังการปรับปรุง 1 ตู้ และรถดีเซลราง 4 ตู้ ที่การรถไฟฯ ได้ดำเนินการนำรถขบวนท้องถิ่นในเส้นทางตะวันออกเฉียงเหนือมาปรับปรุงใหม่ทั้งภายในและภายนอกรวมถึงระบบการทำงานต่าง ๆ เพื่อเตรียมส่งมอบให้ประเทศกัมพูชาในช่วงประมาณต้นปี 2560 โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคม ภาคเอกชนผู้ใช้บริการขนส่งสินค้ากับขบวนรถไฟของ รฟท. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชน เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานผลการดำเนินงานของโครงการปรับปรุงรถโดยสารชั้น 3 ฯ ว่า การรถไฟฯ ได้ดำเนินการโครงการปรับปรุงรถไฟโดยสารชั้น 3 ขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน และกระทรวงคมนาคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตการเดินทางของประชาชนทางรถไฟให้มีความสะดวกสบาย รวดเร็ว สะอาด และปลอดภัย ซึ่งการปรับปรุงรถโดยสารชั้น 3 ครั้งนี้ มีเป้าหมายการปรับปรุงในระยะแรก จำนวน 20 คัน เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน ก่อนมีการทยอยปรับปรุงรถโดยสารชั้น 3 อย่างต่อเนื่อง รวม 148 คัน โดยมีกำหนดเปิดให้บริการรถโดยสารโฉมใหม่เต็มรูปแบบในวันฉลองคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟฯ ครบรอบ 120 ปี ในวันที่ 26 มีนาคม 2560 ทั้งนี้ การปรับปรุงขบวนรถโดยสารจะมีการปรับปรุงในส่วนของรถไฟชั้น 3 ซึ่งพ่วงอยู่ในขบวนรถเร็ว 8 ขบวน ใน 4 เส้นทาง ได้แก่ ขบวนที่ 109 กรุงเทพ – เชียงใหม่ ขบวนที่ 102 เชียงใหม่ – กรุงเทพ ขบวนที่ 171 กรุงเทพ – สุไหงโก-ลก ขบวนที่ 172 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพ ขบวนที่ 133 กรุงเทพ-หนองคาย ขบวนที่ 134 หนองคาย-กรุงเทพ ขบวนที่ 145 กรุงเทพ – อุบลราชธานี และขบวนที่ 146 อุบลราชธานี – กรุเทพ ตลอดจนขบวนรถไฟชานเมืองซึ่งเป็นรถไฟฟรี ที่เปิดให้บริการแก่ประชาชนวันละ 164 ขบวน ให้ทันสมัยสามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี
สำหรับการปรับปรุงขบวนรถไฟโดยสารครั้งใหญ่จะมีการปรับปรุงหลายส่วน เช่น การทำสีขบวนรถโดยสารทั้งภายในและภายนอกใหม่ การปรับปรุงระบบน้ำใช้ ห้องน้ำและเครื่องสุขภัณฑ์ให้มีความสะอาด ปราศจากกลิ่นรบกวนระหว่างเดินทาง การปรับปรุงประตู หน้าต่าง บานกระจกใหม่ การปรับปรุงสภาพพื้นที่ในตัวรถโดยสารให้มีความสะอาดแข็งแรง เบาะนั่ง พนักพิงให้นั่งสะดวกสบาย การบำรุงซ่อมแซมพัดลมในรถโดยสารทุกคันให้สามารถใช้งานได้ปกติ รวมทั้งจะมีการจัดทำความสะอาดบิ๊กคลีนนิ่งในขบวนรถโดยสารทุกคันด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า การเดินทางมาเปิดเดินขบวนรถโดยสารชั้น 3 ที่ปรับปรุงใหม่ครั้งนี้ เพื่อมาติดตามความก้าวหน้าเกี่ยวกับการดำเนินงานการปฏิรูปการรถไฟฯ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการดำเนินงานหลายอย่างของประเทศมีการพัฒนาตามลำดับ แต่ยังต้องปฏิรูปทุกอย่างให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลต้องเข้ามาดูในรายละเอียดและให้แนวทางในการปฏิบัติไม่ใช่แต่เพียงการกำหนดกรอบนโยบายอย่างเดียว เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังเสียงและข้อคิดเห็นของประชาชนโดยรวมทั้งหมด รวมทั้งในเรื่องการบริการขนส่งสาธารณะรัฐบาลได้มีการคิดหาแนวทางดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยได้นำปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟและรถยนต์มาประกอบการพิจารณาดำเนินการและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องคิดลักษณะเดียวกันเพื่อให้การทำงานมีความสอดคล้องตรงกันเกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง โดยเฉพาะตรงกับความต้องการและความพึงพอใจของประชาชนที่จะได้รับบริการขนส่งสาธารณะที่ทันสมัยรองรับการเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบการขนส่งทางรางต้องครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มของประเทศ โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้สามารถมีโอกาสได้รับบริการดังกล่าวอย่างเท่าเทียมกันด้วย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ขณะเดียวกันต้องมีการสร้างการรับรู้กับประชาชนให้เข้าใจถึงความจำเป็นต่อการดำเนินการต่าง ๆ ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ อันจะทำให้ประเทศสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ตามเป้าหมายที่กำหนด
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำถึงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างว่า ต้องมีความโปร่งใส เป็นธรรมสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมให้ได้ว่าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น โดยยืนยันการดำเนินการต่าง ๆ ของรัฐบาลเป็นไปด้วยความโปรงใสไม่มีการเอื้อผลประโยชน์กับบุคคลกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด แต่ยึดผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ ซึ่งการดำเนินการการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางในโครงการปรับปรุงขบวนรถไฟโดยสารชั้น 3 จำนวน 20 คัน จากจำนวนทั้งสิ้น 148 คัน ในวันนี้ ก็ขอให้มีการดำเนินการลักษณะดังกล่าวขยายไปสู่การนำรถไฟโบราณมาวิ่งตามห้วงเวลาที่กำหนดในเส้นทางที่มีความถี่ในการใช้รางน้อยเช่นเดียวกับในต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ของประเทศไทย ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการบริหารงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยในทุกด้านอย่างเต็มที่ในการพัฒนาระบบรางของประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟปัจจุบัน รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูงที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการในอนาคต ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวต้องพัฒนาดำเนินการไปทีละขั้นตามกำลังและขีดความสามารถโดยความร่วมมือบนสัญญาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมทั้งการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางทั้งระบบต้องเชื่อมโยงกับระบบการขนส่งคมนาคมอื่น ๆ ทั้งรถยนต์ รถโดยสารประจำทางหรือรถเมล์ โดยขอให้เร่งดำเนินการจัดสร้างที่จอดรถใต้ดินขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ ภายในปี 2560 ไว้สำหรับให้ประชาชนนำรถมาจอดก่อนเดินทางต่อไปโดยใช้บริการระบบขนส่งทางรางและขนส่งสาธารณะของรัฐ เพื่อให้การเดินทางของประชาชนมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น สามารถแก้ไขและบรรเทาปัญหาการจรจรที่ติดขัดในเมืองได้อีกด้วย
พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลและขับเคลื่อนการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางในโครงการปรับปรุงขบวนรถไฟโดยสารชั้น 3 จำนวน 20 คัน ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี รวมทั้งการปรับปรุงรถดีเซลรางเพื่อส่งมอบให้กับประเทศกัมพูชา ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงระบบการขนส่งทางรถไฟระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันในภูมิภาคอาเซียนให้สามารถขับเคลื่อนไปพร้อมกันได้และขยายไปสู่ประชาคมโลกเพราะทุกคนล้วนคือมนุษยชาติบนโลกใบเดียวกันทั้งหมด
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ทำพิธีเปิดเดินขบวนรถโดยสารชั้น 3 ที่ปรับปรุงใหม่ โดยลั่นระฆัง 3 ครั้ง เพื่อเป็นสัญญาณในการปล่อยขบวนรถฯ พร้อมร่วมเดินทางด้วยขบวนรถโดยสารชั้น 3 ที่ปรับปรุงใหม่ ออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ไปยังป้ายหยุดรถโรงพยาบาลรามาธิบดี ก่อนลงจากขบวนรถโดยสารชั้น 3 เพื่อเดินไปยังสถานีรถไฟหลวง จิตรลดา เพื่อทำพิธีกดปุ่มเปิดนิทรรศการ “ในหลวง (รัชกาลที่9) กับการรถไฟแห่งประเทศไทย” พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการดังกล่าวซึ่งจัดแสดงไว้ระหว่างวันที่ 21 – 25 ธันวาคม 2559 โดยประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ตามวันดังกล่าวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
----------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th