วันนี้ เวลา 12.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวให้โอวาทและมอบแนวทางการปฏิบัติงานแก่ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษของกระทรวงกลาโหม จำนวน 55 ท่าน โดยมีสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทแก่ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และมีความเชี่ยวชาญทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์และด้านการบริหารงานมาช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง โดยยึดหลักของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ซึ่งบุคลากรที่ได้รับการคัดเลือกนี้จะต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพราะจะทำให้การทำงานเกิดความเข้มแข็งและสามารถช่วยเหลืองานในด้านต่าง ๆ ของรัฐบาลได้ ขณะนี้ประเทศกำลังต้องการการฟื้นฟูและปรับเปลี่ยนประเทศ เพราะทิศทางการแก้ปัญหาในอดีตทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น วันนี้โลกเปลี่ยนไปมาก ปัจจัยภายนอกมีผลกระทบต่อปัจจัยภายใน และคนไทยส่วนใหญ่ยังอ่อนแอที่จะรับต่อกระแสโลกาภิวัตน์
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่วางยุทธศาสตร์ได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากข้อมูลมีไม่เพียงพอ เพราะการวางยุทธศาสตร์ต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และทันสมัย ปัจจุบันประเทศยังขาดการวิเคราะห์และวิจัย จึงจำเป็นที่จะต้องผสมผสานความรู้และทฤษฎีใหม่ ๆ ลำพังรัฐบาลฝ่ายเดียวทำงานไม่สำเร็จ จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ทรงคุณวุฒิทุกคนซึ่งมีความเข้าใจในแนวคิดของยุทธศาสตร์เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายภารกิจในการติดตามผลงานและนโยบายของรัฐบาลในแต่ละด้าน รวมถึงการลงไปยังพื้นที่เพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างถูกต้องและเกิดประสิทธิภาพ โดยให้แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ระดับ คือใช้พื้นที่และลักษณะงานเป็นตัวตั้ง โดยให้ผู้ทรงคุณวุฒิทุกคน อาสาทำงานตามที่ตนเองถนัดในแต่ละด้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อว่า หากทุกคนทำงานด้วยความสนุก และมีความสุขกับการทำงาน ก็จะทำให้งานออกมาดี และงานชิ้นแรกที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ดำเนินการในเบื้องต้น คือ งานติดตามนโยบายผู้ว่าฯ CEO ในจังหวัดนำร่องทั้ง 5 จังหวัด
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 0 2629 9292, 0 2629 9491 โทรสาร 0 2281 4450--จบ--
-สส-
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทแก่ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และมีความเชี่ยวชาญทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์และด้านการบริหารงานมาช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง โดยยึดหลักของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ซึ่งบุคลากรที่ได้รับการคัดเลือกนี้จะต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพราะจะทำให้การทำงานเกิดความเข้มแข็งและสามารถช่วยเหลืองานในด้านต่าง ๆ ของรัฐบาลได้ ขณะนี้ประเทศกำลังต้องการการฟื้นฟูและปรับเปลี่ยนประเทศ เพราะทิศทางการแก้ปัญหาในอดีตทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น วันนี้โลกเปลี่ยนไปมาก ปัจจัยภายนอกมีผลกระทบต่อปัจจัยภายใน และคนไทยส่วนใหญ่ยังอ่อนแอที่จะรับต่อกระแสโลกาภิวัตน์
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่วางยุทธศาสตร์ได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากข้อมูลมีไม่เพียงพอ เพราะการวางยุทธศาสตร์ต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และทันสมัย ปัจจุบันประเทศยังขาดการวิเคราะห์และวิจัย จึงจำเป็นที่จะต้องผสมผสานความรู้และทฤษฎีใหม่ ๆ ลำพังรัฐบาลฝ่ายเดียวทำงานไม่สำเร็จ จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ทรงคุณวุฒิทุกคนซึ่งมีความเข้าใจในแนวคิดของยุทธศาสตร์เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายภารกิจในการติดตามผลงานและนโยบายของรัฐบาลในแต่ละด้าน รวมถึงการลงไปยังพื้นที่เพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างถูกต้องและเกิดประสิทธิภาพ โดยให้แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ระดับ คือใช้พื้นที่และลักษณะงานเป็นตัวตั้ง โดยให้ผู้ทรงคุณวุฒิทุกคน อาสาทำงานตามที่ตนเองถนัดในแต่ละด้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อว่า หากทุกคนทำงานด้วยความสนุก และมีความสุขกับการทำงาน ก็จะทำให้งานออกมาดี และงานชิ้นแรกที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ดำเนินการในเบื้องต้น คือ งานติดตามนโยบายผู้ว่าฯ CEO ในจังหวัดนำร่องทั้ง 5 จังหวัด
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 0 2629 9292, 0 2629 9491 โทรสาร 0 2281 4450--จบ--
-สส-