นายกรัฐมนตรี สั่งการเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงวันหยุดยาว พร้อมชี้แจงการใช้ ม.44 เพื่อความจำเป็น และเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนเท่านั้น

ข่าวทั่วไป Tuesday December 27, 2016 16:02 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรี สั่งการเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงวันหยุดยาว พร้อมชี้แจงการใช้ ม.44 เพื่อความจำเป็น และเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนเท่านั้น

วันนี้ (27 ธันวาคม 2559) เวลา 14.10 น. ณ บริเวณห้องโถงตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรกล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า วันนี้รัฐบาลได้เป็นห่วงความเดือดร้อนของประชาชนมากกว่าเรื่องของการเมืองที่คาดเดาได้ยาก สำหรับผู้ที่มีความคิดต่างจากรัฐบาล ควรมีความคิดที่จะทำเพื่อประเทศชาติเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และควรเน้นให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยรัฐบาลพร้อมที่จะดำเนินการต่าง ๆ เพื่อประโยชน์สุขของคนในประเทศเป็นหลัก

สำหรับการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงปีใหม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติพร้อมหน่วยงานต่าง ๆ ได้เตรียมความพร้อมวางมาตรการดูแลพี่น้องประชาชนไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้สั่งการย้ำให้เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาให้บ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ที่สงบมากที่สุด และไม่ให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น อีกทั้งขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชน และประชาชนให้ช่วยกันเฝ้าระวัง รวมถึงแจ้งเตือนการก่อความรุนแรง พร้อมงดดื่มสุราในขณะขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งอย่าฝากความหวังให้เจ้าหน้าที่ดูแลเพียงอย่างเดียว ประชาชนต้องระมัดระวังอุบัติเหตุด้วย เพราะไม่มีใครดูแลตัวเราได้ดีกว่าตัวเราเอง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า วันหยุดในช่วงปีใหม่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2559 - 3 มกราคม 2560 ไม่ใช่เริ่มตั้งแต่ วันที่ 30 ธันวาคม

พร้อมกล่าวอวยพรเนื่องในโอกาสปีใหม่ว่า ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน ได้รับพรจากอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย พร้อมเดชะพระบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้ทรงปกป้องคุ้มครองให้ประชาชนคนไทยทั้งหมด รวมไปถึงชาวต่างประเทศที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ให้มีความสุขความเจริญทั้งในเรื่องหน้าที่การงานและในเรื่องส่วนตัวตลอดไป

ส่วนเรื่อง การจารกรรมข้อมูลทางรัฐบาลโดยกลุ่มแฮคเกอร์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กำลังดำเนินการเร่งจับตัวผู้กระทำความผิดรวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี ซึ่งการก่อเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย จะต้องนำตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนไม่ควรยกย่องความสามารถของผู้ที่กระทำความผิด ควรคำนึงว่าการนำข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นมาเผยแพร่เป็นความผิดหรือไม่ สังคมควรทำความเข้าใจเพื่อหยุดกระบวนการเหล่านี้

สำหรับการใช้ มาตรา 44 นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเพียงการทำงานเสริมกฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และเพื่อเร่งการทำงานที่ติดขัดกับกฎหมาย ทั้งในเรื่องการแก้ไขกฎหมาย อย. เพื่อให้สามารถผลิตยาสมุนไพรพื้นบ้าน โดยการนำไปสู่การวิจัยและพัฒนา ซึ่งจะทำให้พี่น้องชาวไทยมียารักษาโรคในราคาถูกได้ รวมถึงใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ไขปัญหาช่วงเชื่อมต่อของรถไฟสายสีม่วงให้แล้วเสร็จในปลายปี 2560 ซึ่งรัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวกับผลประโยชน์แต่อย่างใด

ส่วนคดีวัดพระธรรมกาย นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลกำลังเร่งควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบ ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินการดังกล่าว กระทรวงยุติธรรมและ DSI ได้ดำเนินการตามขั้นตอนไปเรียบร้อยแล้วทั้งสิ้น ขณะนี้เป็นการรอการดำเนินการในการบังคับใช้กฎหมายโดยหลีกเลี่ยงการเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงจากการปะทะกัน

สำหรับการตั้งคณะกรรมการปฎิรูป นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า เป็นคณะกรรมการที่รวบรวมนโยบายและผลงานการดำเนินงานที่ที่ผ่านมาให้เกิดความชัดเจน เพื่อการปฏิรูป โดยนำแม่น้ำ 5 สาย ร่วมกับยุทธศาสตร์แห่งชาติ 20 ปี เร่งดำเนินการให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด และที่สำคัญจะเป็นแนวทางให้กับรัฐบาลในชุดต่อไป

---------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ