วันนี้ (6 มกราคม 2560) เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมหารือติดตามงานด้านความมั่นคงและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณและชื่นชมข้าราชการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานหนักมาตลอดช่วงปีใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้กับประชาชนในพื้นที่ และกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมกล่าวยืนยันว่ารัฐบาลมีความห่วงใย ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนภาคใต้ แต่เนื่องด้วยติดขัดปัญหาในหลาย ๆ อย่าง แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้ได้ โดยภาคใต้มีศักยภาพในหลาย ๆ ด้านที่ควรส่งเสริม เพิ่มศักยภาพให้มีการเจริญเติบโตให้มีความยั่งยืนก้าวหน้าต่อ
ทั้งนี้ ที่ประชุมรับทราบการดำเนินงานภารกิจของผู้แทนพิเศษของรัฐบาล โดยได้บูรณาการงานด้านความมั่นคงและการพัฒนาให้ประสานทุกมิติอย่างสอดคล้องกันได้แก่ ด้านความมั่นคง ด้านการพัฒนา และด้านการสร้างความเข้าใจ เพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้มีสันติสุข อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน พร้อมรับทราบงานในภารกิจและความรับผิดชอบของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ดังนี้ สถานการณ์การก่อเหตุในพื้นที่ลดลง คิดเป็นร้อยละ 34 และการสูญเสียชีวิตลดลง คิดเป็นร้อยละ 25 ซึ่งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่า เหตุการณ์และความสูญเสียลดลงอย่างชัดเจน ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านตนเอง และปฏิเสธที่จะสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเพิ่มมากขึ้น สำหรับด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนพบว่า ประชาชนมีความพึงพอใจต่อนโยบายการพัฒนาของรัฐบาล ต้องการให้มีการพัฒนาพื้นที่อย่างเต็มศักยภาพ ส่วนบรรยากาศการอยู่ร่วมกันแบบสังคมพหุวัฒนธรรมของพี่น้องไทยพุทธและไทยมุสลิมมีความสัมพันธ์ที่ดีมากขึ้นตามลำดับ ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ มีความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและมีความหวังในอนาคตต่อการพัฒนาเพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสุข มีความอยู่ดีกินดี สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในเรื่องเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน"
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมีเจตนารมณ์ที่จะพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ แต่ก็จำเป็นที่จะต้องใช้กฎหมายควบคู่กันไป ส่วนในเรื่องการสร้างเศรษฐกิจให้กับประชาชนในพื้นที่ ต้องการส่งเสริมให้ภาคใต้เป็นพื้นที่หลักในการเลี้ยงสัตว์ พร้อมกับสร้างอุตสาหกรรมท้องถิ่นที่เกิดขึ้นโดยคนในชุมชนและเอกชนในท้องถิ่น ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนในส่วนที่ขาด ทั้งนี้ ขอให้ดูความต้องการของตลาดเป็นหลัก และขอให้นำอัตลักษณ์ที่เป็นความแตกต่างของภาคใต้เป็นจุดเด่นในการสร้างจุดขาย พร้อมกับให้รวมกลุ่มกันภายใต้รูปแบบประชารัฐ ภายใต้ความร่วมมือของประชาชนและหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งต้องสร้างการรับรู้ไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่วนการทำเกษตรขอให้เป็นเกษตรกรยุค 4.0 คือนำเทคโนโลยีมาช่วยในการผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่า และส่งเสริมให้ครู อาจารย์ รวมถึงนักวิชาการเข้าช่วยในเรื่องของทำการวิจัย
สำหรับการใช้จ่ายงบประมาณ นายกรัฐมนตรี ขอให้ยึดแผนตามกิจกรรมที่เร่งด่วนและสำคัญเป็นหลัก ทำให้เกิดความเชื่อมโยงกัน เน้นโครงการที่เกิดเป็นรูปธรรมสร้างประโยชน์ต่อประชาชน และสามารถทำให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2560 ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบประมาณ หากจังหวัดไหนไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนคำของบประมาณ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องรับผิดชอบ พร้อมกับขอให้สร้างการรับรู้การใช้งบประมาณให้ประชาชนได้เข้าใจ ซึ่งการทำงานอะไรก็ตามขอให้คำนึงถึงความคุ้มค่าของงบประมาณ รวมถึงเวลาที่ใช้ในการดำเนินงาน
-----------------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th