วันนี้ (10 ม.ค. 60) เวลา 14.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พันเอกหญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมร่วมระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)กับคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แจ้งต่อที่ประชุมรับทราบถึงสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยรับสั่งฝากคณะองคมนตรีมาถึงรัฐบาลเมื่อวานนี้ (9ม.ค.60) ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งในส่วนของนายกรัฐมนตรีต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทุกคน รวมทั้งกำลังพลจากเหล่าทัพต่าง ๆ และเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังไม่ให้เกิดอันตรายขึ้นทั้งต่อเจ้าหน้าที่และประชาชน ถึงแม้สถานการณ์ในช่วงนี้บางพื้นที่จะเริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว แต่ก็ขอให้เฝ้าระวังพายุลูกใหม่ที่จะเข้ามาอีก โดยขณะนี้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมก่อนเป็นลำดับแรก ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยทุกระดับ รวมถึงการทำทางระบายน้ำลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด เพื่อป้องไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวซ้ำอีก
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเน้นย้ำถึงเรื่องที่ได้สั่งการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและบรรเทาสาธารณภัยของประชาชนซึ่งมี 4 ระดับว่า กรณีของปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ได้พ้นจากระดับที่ 1 คือการแก้ไขปัญหาในระดับท้องถิ่นซึ่งไม่มีความรุนแรงมาก และระดับที่ 2 คือผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบดูแล มาสู่การประกาศยกระดับการจัดการปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ให้เป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ ระดับ 3 โดยได้จัดตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้าขึ้น เพื่อดูแลประชาชนในเขตที่ประสบภัยพิบัติทั้ง 12 จังหวัด (พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์) ในภาคใต้เรียบร้อยแล้ว โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้บัญชาการ ทำหน้าที่บูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้กำกับดูแลอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ รัฐบาลโดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการเปิด “ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้” ขึ้น ณ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมเงินบริจาคของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศจัดส่งให้จังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ทั้ง 12 จังหวัดดังกล่าว ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสงค์จะช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในครั้งนี้ สามารถบริจาคเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้ประสบธารณภัยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ โดยโอนเงินเข้าที่บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0 โดยผู้ที่ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าวสามารถนำใบเสร็จรับเงินการบริจาคฯ มาลดหย่อนภาษีได้ด้วย
พร้อมทั้ง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต่อที่ประชุมร่วมระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติกับคณะรัฐมนตรีถึงเหตุผลการเตรียมการที่จะออกร่างกฎหมายมาตรา 44 อีกจำนวน 2 ฉบับ โดยเฉพาะ ในส่วนของร่างกฎหมายฉบับแรกจะเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อครั้งที่ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พบว่าโครงสร้างของกระทรวงศึกษาเป็นโครงสร้างที่มีปัญหาและแตกต่างจากกระทรวงอื่น ๆ เพราะแท่งโครงสร้างถึง 5 แท่ง ทำให้มีระดับผู้บริหารระดับสูง (ชี11) จำนวนถึง 5 คน ในกระทรวง เพราะฉะนั้นเมื่อนายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงมีความเห็นว่าสิ่งที่พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเคยเสนอไว้ควรจะดำเนินการต่อไป ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นการยุบโครงสร้างทั้ง 5 แท่ง แต่จะเป็นการยุบ อ.ก.พ. ที่มีอยู่เดิมของทั้ง 5 แท่ง ให้เหลือเพียง อ.ก.พ.เดียว เพื่อให้การเกลี่ยและบริหารจัดการอัตรากำลังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาข้อขัดข้องที่กระทรวงประสบมาตลอด
--------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th