วันนี้ (14 ม.ค.60) เวลา 08.30 น. ณ สนามเสือป่า สำนักพระราชวัง กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2560 ภายใต้แนวความคิด " ดินแดนแห่งความสุข ตามรอยศาสตร์ของพระราชา " ซึ่งเป็นการนำพาให้เด็กและเยาวชนได้สัมผัสกิจกรรมเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพด้านต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมถึงกิจกรรมที่ให้สาระความรู้และความสนุกสนานจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆกว่า 250 บูธ พร้อมมีการแจกของขวัญวันเด็กกว่า 100,000 ชิ้น และแจกหนังสือวันเด็ก "ต้นกล้าของพ่อ" กว่า 300,000 เล่ม ตลอดจนรับชมการแสดงของเด็กและเยาวชน จัดโดยกระทรวงศึกษาธิการ โดยมี นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เด็ก เยาวชน พ่อแม่และผู้ปกครองเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวว่า การจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2498 และดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยกระทรวงศึกษาธิการได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับทุกส่วนราชการทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ทั้งนี้ การจัดงานวันเด็กแห่งชาติปี 2560 นี้ กระทรวงศึกษาธิการได้มีการจัดงานในส่วนกลาง ณ สนามเสือป่า สำนักพระราชวัง โดยเน้นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้แนวพระราชดำริ พระราชกรณียกิจ หลักคำสอน และหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้น้อมนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีวิต โดยเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่ได้งมือปฏิบัติด้วยตนเอง
สำหรับกิจกรรมภายในงานวันเด็กฯ ปีนี้ มีการจัดกิจกรรมกว่า 250 บูธ แบ่งเป็น 6 สถานี ได้แก่ สถานีที่ 1 เวทีกลาง (Main Stage) เป็นเวทีกิจกรรมหลักในการจัดกิจกรรม อาทิ การทำพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ กิจกรรมทอล์คจากพระมหาสมปอง ตาลปุตโต ชมการ์ตูนแอร์นิเมชั่นพระมหาชนก การแสดง เช่น เพลงพระราชนิพนธ์จากเด็ก The Voice หุ่นมือ โบโซ่โชว์ ฯลฯ
สถานีที่2 สถานีพระอัจฉริยภาพ (King Bhumibol Adulyadej's Talents) เป็นกิจกรรมที่มุ่งให้เด็กและเยาวชน ได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพในด้านต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เช่น พระอัจฉริยะภาพด้านกีฬา พระอัจฉริยภาพด้านดนตรี พระอัจฉริยภาพด้านงานศิลปะวาดภาพ/ถ่ายภาพ พระอัจฉริยภาพด้านภาษา และพระอัจฉริยภาพด้านวรรณกรรม
สถานีที่3 สถานีพอเพียง (Philosophy of Sufficiency Economy) ชมนิทรรศการมีชีวิต เกษตรทฤษฎีใหม่ กิจกรรมเรียนรู้บัญชีในครัวเรือน และกิจกรรมฝึกทำอาหารพอเพียง
สถานีที่4 สถานีนวัตกรรม (Innovation) เป็นโซนกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชน ได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพด้านการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการเป็นนักประดิษฐ์ คิดค้น และปดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ มากมาย อาทิ นิทรรศการกังหันชัยพัฒนา กิจกรรมห้องทดลองไบโอดีเซล กิจกรรมเยาวชนนักปนะดิษฐ์ผ่านอุปกรณ์ตัวต่อกิโก้ เป็นต้น
สถานีที่ 5 สถานีธรรมะจากพระราชา (King Bhumibol Adulyadej's Dhamma) เป็นโซนกิจกรรมที่มุ่งเน้นการให้ความรู้ในเรื่องธรรมะของพระราชา และจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ผ่านสถานีกิจกรรมย่อยต่าง ๆ เช่น ฟังธรรมะจากพระนักเทศน์ พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าชิคาโก สหรัฐอเมริกา กิจกรรมเล่นเกมตอบปัญหา กิจกรรมฝึกสมาธิจากพระนักเทศน์ กิจกรรมฝึกสมาธิจากงานฝีมือ และการแสดงโซนคุณธรรม เป็นต้น
สถานีที่ 6 สถานีอิงลิช ฟอร์ ฟัน (English for fun) เป็นโซนกิจกรรทที่มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนเพิ่มพูนความรู้จากการศึกษาเล่าเรียนทั้งจากในตำราและในโรงเรียน หรือการเรียนรู้การใช้ชีวิตและความจำเป็นของภาษาอังกฤษ เช่น กิจกรรมสนทนากับเจ้าของภาษาโดยครูสอนภาษาอังกฤษชื่อดังแอนดรูว์ บิกส์ พร้อมกิจกรรมเวทีตำรวจ อาทิ พิธีเปิดกิจกรรมเยาวชนสัมพันธ์ ทอล์คโชว์โดยแอนดรูว์ บิกส์ โชว์การแสดงการฝึกสุนัขตำรวจ การแสดงไวโอลิน ร้องเพลงเทิดพระเกียรติ เพลงพระราชนิพนธ์ โขนสั้นเทิดพระเกียรติ ตอนข้าราชบริพารร่วมถวายพระพร พร้อมการเล่นเกมแจกของขวัญ ของรางวัลต่าง ๆ จำนวนมาก
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า งานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ถือเป็นวันสำคัญของเด็ก ๆ ทุกคน และรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาเป็นประธานเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2560 โดยหลายหน่วยงานได้มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้นในหลายพื้นที่ แสดงให้ว่าบ้านเมืองเรามีความสงบสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคน รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องร่วมกันรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยปลอดภัยขึ้นในสังคมเพื่อให้สิ่งต่าง ๆ สามารถขับเคลื่อนและเดินหน้าประเทศต่อไปได้ ทั้งนี้ การจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติเป็นวันที่เด็กๆ จะได้มีโอกาสมาแสดงศักยภาพและได้เรียนรู้กับกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่ เพื่อจะเก็บเป็นประสบการณ์และความทรงจำที่ดีในวัยเด็กตลอดไป ก่อนที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ซึ่งเด็กและเยาวชนคือพลังสำคัญของประเทศในอนาคต ดังนั้น เด็กๆ ทุกคนจึงควรจะได้รับการเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนเพื่อปลูกฝังและสร้างการรับรู้ที่มีประโยชน์และถูกต้องตั้งแต่วัยเยาว์ โดยครอบครัวคือพื้นฐานสำคัญที่สุดในการอบรมเลี้ยงดูให้เด็กมี ความแข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจจะได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ในขณะเดียวกันสังคมก็ต้องช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับเด็ก เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความพร้อมที่จะก้าวไปสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองในวันข้างหน้าต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชน จึงมีนโยบายส่งเสริมให้เด็กไทยทุกคนได้รับการดูแลอย่างดีตั้งแต่ในครรภ์มารดาและส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดีเพื่อลดความเหลือล้ำด้านการศึกษาให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรม สร้างสภาวะการเรียนรู้ที่ถูกวิธีตามความสามารถเพื่อที่จะได้เป็นแรงผลักดันในการเรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการฝึกฝนตามเส้นทางของตน ตลอดจนพัฒนาตนเองไปสู่ความเชี่ยวชาญ ขณะเดียวกันเด็ก เยาวชน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องมีการสร้างกระบวนการเรียนรู้ไปด้วยกัน มุ่งมั่นสร้างแรงผลัดดัน สร้างสภาวะการเรียนรู้และโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนได้มีทางเลือกเกี่ยวกับการศึกษาในด้านที่แต่ละคนมีความสนใจตามความสามรถของตนเองอย่างแท้จริง โดยมีการกำหนดเป้าหมายการศึกษาให้ชัดเจนเพื่อนำไปสู่การมีอาชีพที่มั่นคงและมีอนาคตที่ดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้มีความรู้ควบคู่คุณธรรม มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กรู้จักการหาความรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน รู้จักคิดวิเคราะห์อย่างถ่องแท้ เพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนมีความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับตนเอง สังคม และประเทศชาติ รวมทั้งการประพฤติปฏิบัติตนตั้งมั่นอยู่ในความดี มีคุณธรรม มีความรักความสามัคคี รู้จักรักษาวัฒนธรรมของชาติ และรู้จักรักและหวงแหนประเทศชาติ ผ่านการศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ผ่านมาและการส่งเสริมค่านิยมไทย 12 ประการ ให้เกิดจิตสำนึกที่ดีสำหรับเด็ก เยาวชนและคนไทยทุกคน โดยคำขวัญวันเด็กปีนี้ที่ให้ไว้ว่า “เด็กไทย ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง” เพราะเรื่องการศึกษาคือพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ศาสตร์และศิลป์ในทุกแขนง เป็นการสร้างความรู้เพื่อพัฒนาความสามารถให้กับเด็กและเยาวชน และเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ในทุกๆ ด้าน ซึ่งจะช่วยนำไปสู่การดำรงชีวิต อย่างมีคุณภาพและมีความสุข มีอาชีพที่มั่นคงสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว ตลอดจนนำความรู้มาช่วยพัฒนาบ้านเมือง เพราะในทุกอาชีพคือกลไกสำคัญของการขับเคลื่อนประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง โดยขอฝากให้เด็กและเยาวชนไทยทุกคนมีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียนทั้งในและนอกห้องเรียนอย่างจริงจัง เพื่อจะได้รู้จักการคิดวิเคราะห์พิจารณาว่าเรื่องใดมีประโยชน์ต่อเรา รู้จักแยกแยะความผิดชอบชั่วดี และสามารถนำไปต่อยอดความรู้ความสามารถได้อย่างไร เพื่อจะเป็นการเพิ่มทักษะให้เกิดความเชี่ยวชาญยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การอ่านหนังสือคือสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะจะเป็นการฝึกให้เราเป็นคนมีสมาธิ มีการคิดวิเคราะห์ มีจินตนาการ มีการตั้งคำถาม และรู้จักการหาคำตอบซึ่งหวังอย่างยิ่งว่าผู้ใหญ่ในวันนี้จะช่วยหล่อหลอมให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างมีคุณภาพและมีความความสุขในวันข้างหน้าต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับครู เด็ก ครอบครัวและพ่อแม่ โดยขอให้ทุกคนร่วมกันทำงานเพื่อสร้างชาติ สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กและเยาวชน โดยผู้ใหญ่ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ยึดถือเป็นแบบอย่างและแนวทางในการนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและประเทศชาติ พร้อมขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนที่ได้ร่วมกันจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ขึ้นให้เด็กและเยาวชนได้รับความสุขและสนุกเรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์ และขอให้ความสุขเช่นนี้มีตลอดไปไม่ใช่เฉพาะวันในงานวันเด็กฯ เท่านั้น โดยขอให้คนไทยทุกคนทำทุกวันและทุกวินาทีให้มีความสุข มีความเอื้ออาทรต่อกันในครอบครัวทั้งระหว่างลูก พ่อแม่ รวมถึงการสร้างความรักความอบอุ่นระหว่างสามีและภรรยา พร้อมทั้งอวยพรให้เด็กและเยาวชนไทยทุกคนให้ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มีสุขภาพจิตที่เข้มแข็งมั่นคง และมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด เพื่อเป็นเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีอนาคตสดใส เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนตลอดไป
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ทำพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2560 โดยการเขียนคำขวัญวันเด็ก “เด็กไทย ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง”ลงบนแท่น พร้อมทั้งทักทายเด็กและเยาวชน และเยี่ยมชมบูธงานฉลองวันเด็กแห่งชาติทั้งของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และมอบของขวัญแก่เด็กและเยาวชนก่อนเดินไปยังบริเวณจัดงานเยาวชนสัมพันธ์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อให้โอวาทแก่เยาวชนสัมพันธ์ต่อไป
-------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th