รัฐบาลเตรียมการรับฝนระลอกใหม่ภาคใต้ 16 – 18 ม.ค.นี้ เร่งระบายน้ำท่วมลงทะเล พร้อมพร่องน้ำในแม่น้ำสายหลักและขุดเปิดทางน้ำ เตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้

ข่าวทั่วไป Sunday January 15, 2017 07:21 —สำนักโฆษก

รัฐบาลเตรียมการรับฝนระลอกใหม่ภาคใต้ 16 – 18 ม.ค.นี้ เร่งระบายน้ำท่วมลงทะเล พร้อมพร่องน้ำในแม่น้ำสายหลักและขุดเปิดทางน้ำ เตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้

วันนี้ (15 มกราคม 2560) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ส่วนใหญ่เริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่ยังคงมีพื้นที่บางส่วนที่มีระดับน้ำท่วมสูงโดยเฉพาะ จ.สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช ซึ่งรัฐบาลได้เร่งระบายน้ำในพื้นที่ดังกล่าวและจังหวัดอื่นที่ยังมีน้ำท่วมขัง เช่น จ.ตรังและสงขลา โดยได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำกว่า 70 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำกว่า 50 เครื่อง เพื่อให้น้ำไหลลงทะเลได้เร็วขึ้น พร้อมทั้งพร่องน้ำในลุ่มน้ำตาปี ลุ่มน้ำตรัง และขุดเปิดทางน้ำหลายแห่ง เตรียมการรองรับฝนระลอกใหม่ในช่วงวันที่ 16 – 18 ม.ค.นี้

“ขอเตือนให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 1 – 3 วันนับจากนี้ เช่น ดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งระดับน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้น โดยเคลื่อนย้ายทรัพย์สินมีค่าขึ้นบนที่สูง และเดินทางสัญจรด้วยความไม่ประมาท โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยชายฝั่งระวังคลื่นลมแรง เรือเล็กให้งดออกจากฝั่ง”

พลโท สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สำหรับในพื้นที่ที่น้ำลดแล้ว หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่ได้ช่วยกันทำความสะอาด โดยเจ้าหน้าที่ได้เตรียมแผนซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ ถนนหนทาง และระบบสาธารณูปโภค ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ พร้อมทั้งภาครัฐเตรียมจ่ายเงินชดเชยความเสียหาย ทั้งกรณีเสียชีวิต บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเสียหาย ตลอดจนอุปกรณ์ประกอบอาชีพไม่สามารถใช้การได้

“ท่านนายกฯ ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนและจัดระบบป้องกันน้ำท่วมให้ดีในช่วงนี้ พร้อมทั้งได้สั่งการให้ มท. รวบรวมข้อมูลผังเมือง เพื่อวางแผนจัดทำเส้นทางการระบายน้ำแก้ปัญหาในระยะยาว และขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามข่าวสารและประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยหากต้องการขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อหน่วยงานราชการได้ทุกแห่งทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ หรือโทร.สายด่วนข้อมูลข่าวสารของรัฐบาล 1111 และสายด่วนนิรภัย ปภ. 1784 ตลอด 24 ชม.”

--------------------------------------

สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ