วันนี้(13 ม.ค. 2560) เวลา 13.30 น. นางซาตู ซุยก์การี-เคลฟเวน (H.E. Ms. Satu Suikkari-Kleven) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟินแลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้น พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความขอบคุณที่ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ได้แสดงความเสียใจในนามของประชาชนชาวฟินแลนด์ต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมถึงขอขอบคุณที่ประธานาธิบดีฟินแลนด์ได้มีสาส์นถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสที่ขึ้นทรงราชย์ด้วย พร้อมกล่าวในนามรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เอกอัครราชทูตฯมาประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นการดำรงตำแหน่งประจำประเทศไทยเป็นประเทศแรก ขอให้เอกอัครราชทูตฯประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่และอยู่ในประเทศไทยอย่างมีความสุข
ด้านเอกอัครราชทูตฯรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยเป็นประเทศแรก โดยไทยและฟินแลนด์ต่างมีประวัติศาสตร์ร่วมกันมายาวนาน ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่รับรองเอกราชของฟินแลนด์เมื่อปี ค.ศ. 1919 หลังจากที่ฟินแลนด์ประกาศเอกราชเมื่อ ค.ศ. 1917 และต่อมาทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี ค.ศ. 1954 เอกอัครราชทูตฯยังยินดีที่รัฐบาลได้ทำการปฏิรูปประเทศและดำเนินการตามโรดแมปในการกลับคืนสู่ประเทศประชาธิปไตย และฟินแลนด์พร้อมให้คำแนะนำและประสบการณ์ของฟินแลนด์แก่ประเทศไทย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเดินตามโรดแมปของรัฐบาลในการกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง และรัฐบาลได้ปรับปรุงกฎหมายต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนจากต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีจึงขอให้ฟินแลนด์มั่นใจในการบริหารประเทศของรัฐบาล รัฐบาลยินดีที่จะร่วมมือกับเอกอัครราชทูตฯในการสานต่อและสนับสนุนความร่วมมือระหว่างไทยและฟินแลนด์ พร้อมเชื่อมั่นว่าประสบการณ์ของเอกอัครราชทูตฯจะส่งผลต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศให้มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในสาขาที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตฯได้หารือเรื่องความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญชวนให้ฟินแลนด์ร่วมลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตเศรษฐกิจตะวันออก Eastern Economic Corridor ซึ่งฟินแลนด์จะได้ประโยชน์ในการใช้ไทยเป็นประตูสู่ภูมิภาคเพื่อขยายตลาด นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำว่า แม้เวลานี้ปฏิสัมพันธ์ระดับสูงและกลไกการหารือทวิภาคีจะชะลอตามมาตรการของสหภาพยุโรป แต่ภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเอกชน สามารถขับเคลื่อนความสัมพันธ์ของทั้งสองได้ จึงขอให้ไทยและฟินแลนด์ร่วมกันผลักดันการแลกเปลี่ยนการเยือนของภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ
เรื่องความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและด้านการศึกษา นายกรัฐมนตรียินดีที่นักท่องเที่ยวชาวฟินแลนด์ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงการมีชาวฟินแลนด์และนักธุรกิจฟินแลนด์อาศัยอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในระดับประชาชน นายกรัฐมนตรีแล้เอกอัครราชทูตฯจึงเชิญชวนให้ประชาชนทั้งสองประเทศเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกันเพิ่มขึ้น รัฐบาลจะคุ้มครองความปลอดภัยชาวฟินแลนด์และนักธุรกิจฟินแลนด์ให้เหมือนกับคุ้มครองคนไทย ด้านการศึกษา นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมฟินแลนด์ว่ามีระบบการศึกษาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก จึงยินดีที่จะส่งเสริมและสานต่อความร่วมมือด้านการศึกษากับฟินแลนด์ และยินดีหากเอกอัครราชทูตฯ ประสงค์ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการศึกษาของฟินแลนด์กับฝ่ายไทย ซึ่งเอกอัครราชทูตฯแสดงความยินดีที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับไทย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th