นายกรัฐมนตรี ชื่นชมเยาวชนชนะเลิศการท่องจำพระมหาคัมภีรอัล-กรุอานนานาชาติ

ข่าวทั่วไป Tuesday January 24, 2017 15:23 —สำนักโฆษก

วันนี้ (24 มกราคม 2560) เวลา 09.00 น. ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำ นายฮาซัน สาเมาะ และนายฮูเซ็น สาเมาะ ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศการท่องจำพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอานนานาชาติ พร้อมตัฟซีร (อรรถธิบายกุรอาน) เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศ

เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กล่าวรายงานว่า นายฮาซัน สาเมาะ อายุ 18 ปี เยาวชนไทยจากจังหวัดปัตตานี เป็นผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการทดสอบท่องจำพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอานนานาชาติ พร้อมตัฟซีร (อรรถธิบายกุรอาน) ณ เมืองคุรตูม ประเทศซูดาน เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งนายฮาซัน สาเมาะ เป็นเยาวชนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัลดังกล่าว โดยการแข่งขันทดสอบท่องจำพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอานนานาชาติ พร้อมตัฟซีร ครั้งนี้

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมถึงความสำเร็จของเยาวชนไทย พร้อมกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ แต่การที่จะแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนนั้น จะต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่โดยไม่แบ่งแยกศาสนา อีกทั้ง รัฐบาลได้มุ่งหวังให้ความเป็นอัตลักษณ์ของอิสลามในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วยเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศไทยไปสู่ประชาคมอาเซียนในอนาคต

ทั้งนี้ เยาวชนที่ได้รับรางวัลได้สาธิตอ่านบทความในตอนหนึ่งจากคำภีร์อัล-กุรอาน ซึ่งมีความหมายว่า “มนุษย์ทุกคนบนโลกเปรียบเสมือนครอบครัวเป็นพี่น้องซึ่งกันและกันทั้งหมด” นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า ศาสนาอิสลามและทุกศาสนา ได้มีคำสอนสอนให้ทุกคนเป็นคนดี มีความรักสามัคคีซึ่งกันและกัน ควรนำสิ่งเหล่านั้นมาปฎิบัติทั้งในทุกพื้นที่ของประเทศ เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวต่อไปข้างหน้า

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต่อไปว่า สำหรับการศึกษาของเด็กเยาวชนที่ได้รับรางวัลฯ ที่แตกต่างจากการศึกษาสามัญนั้น รัฐบาลได้วางแผนการปฎิรูปการศึกษาไว้แล้ว โดยการแก้ปัญหาให้กับนักเรียนที่ได้รับการศึกษาทางด้านศาสนา สามารถนำผลที่สำเร็จจากการศึกษานั้นไปเทียบวุฒิการศึกษาสายสามัญได้ เพื่อสามารถเลือกอาชีพอื่น ๆ ได้หลากหลายในอนาคต ซึ่งจะทำให้บุคคลเหล่านั้น มีความรู้ทั้งสายสามัญและทั้งทางศาสนศาสตร์ควบคู่กันไป สามารถนำไปต่อยอดอบรมสั่งสอนและสร้างการรับรู้ให้เข้าใจอย่างถูกต้องให้กับกับเยาวชนเด็กรุ่นใหม่ เป็นมุสลิมใต้ยุคใหม่ ที่นำพาประเทศไทยก้าวไปสู่ผู้นำอาเซียนได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป

-------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ