วันนี้ (27 มกราคม 2560) เวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์ติดตามสถานการณ์ ครั้งที่ 3 /2560
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมฯ เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้แถลงข่าวสรุปประเด็นสำคัญ ดังนี้
ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า การประเมินผลการปฏิบัติงานของ กอร.รส. ซึ่งได้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาร่วมถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง สามารถบริหารจัดการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามแผนที่กำหนดไว้ ซึ่งโดยภาพรวมมีประชาชนเดินทางเข้ามาถวายบังคมพระบรมศพฯ วันละประมาณ 35,000 คน
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือในเรื่องการพิจารณาการใช้พื้นที่บริเวณท้องสนามหลวง เนื่องด้วยพื้นที่ท้องสนามหลวงในบางส่วนจะมีการจัดสร้างพระเมรุมาศ และในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ จะมีการจัดพระราชพิธีมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ โดยทาง ศตส. ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งกรมศิลปากร เพื่อจะได้ดำเนินงานบูรณาการในการใช้พื้นที่ดังกล่าวร่วมกัน
อีกทั้ง ในส่วนของการดูแลพี่น้องประชาชนในเรื่อง อาหารและน้ำดื่ม นั้น โดยทาง กอร.รส. ได้มีการปรับเปลี่ยนเต็นท์ที่แจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มในบริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งได้ย้ายมายังจุดบริเวณนอกพื้นที่ท้องสนามหลวง 3 จุด คือ 1. บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม 2. บริเวณหน้าศาลฎีกา 3. ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีจิตอาสาจากหน่วยงานทั้ง 13 หน่วยงานเข้ามาช่วยแจกจ่ายอาหารและเครื่องดื่มให้พี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึง
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าในส่วนการลดปัญหาขยะในพื้นที่ท้องสนามหลวง ทาง กอร.รส. ได้ดำเนินการลดขยะจากเดิมที่เคยสูงถึง 100 ตัน ต่อวัน จนปัจจุบันนี้เหลือเพียง 22 ตัน และแนวโน้มจะได้ลดจำนวนขยะลงตามลำดับ ทั้งนี้ ทาง กอร.รส. ตั้งเป้าหมายที่จะลดขยะให้เหลือไม่เกิน 10 ตันต่อวัน และ ศตส. ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่เดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพฯ ที่มีส่วนช่วยในการจัดเก็บขยะในพื้นที่ดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน
อนึ่ง ในเรื่องการจัดบริการรถ รับ - ส่งสาธารณะ ซึ่ง ขสมก. เปิดให้บริการพี่น้องประชาชนที่เดินทางเข้ามาถวายบังคมพระบรมศพฯ หลังจากเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 100 วัน จำนวน 16 เส้นทางพิเศษนอกเหนือจากที่มีอยู่แล้ว 25 เส้นทาง ซึ่งในปัจจุบันนี้เส้นทางบางเส้นทางมีผู้มาใช้บริการน้อยลง จึงจำเป็น ต้องมีการปรับลดเส้นทางที่ทับซ้อนกันลงมาจำนวน 5 เส้นทาง โดยงดบริการในเส้นทางดังกล่าว มีดังนี้ 1.สถานีขนส่งเอกมัย – สนามหลวง 2.เซ็นทรัลศาลายา – สนามหลวง 3.เมกกะบางนา – สนามหลวง 4.แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ (สถานีมักกะสัน) – สนามหลวง 5.เมืองทองธานี – สนามหลวง ทั้งนี้ จะมีการติดตามและประเมินผลการให้บริการ รับ – ส่งรถโดยสาร (ขสมก.) เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันต่อไป
*******************************
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th