วันนี้ (30 ม.ค.60) เวลา 13.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ครั้งที่ 1/2560 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมด้วย
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายและซักซ้อมความเข้าใจในการทำงานของ ป.ย.ป. คณะกรรมการทั้ง 4 คณะ (คณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ คณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ คณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์) และสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (PMDU) ให้แก่หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า เพื่อให้การปฏิบัติงานมีความเป็นเอกภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงรองรับการทำงานของ ป.ย.ป. ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง สรุปดังนี้
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า การทำงานของรัฐบาลและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เพื่อประเทศชาติ ซึ่งการทำงานของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มี 3 ระยะ โดยได้ทำงานมา 2 ระยะตั้งแต่ปี 2557 - 2559 ขณะนี้อยู่ในการทำงานขั้นที่ 2 คือปี 2560 จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ขึ้นมาเพื่อให้การทำงานเกิดความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงสร้างความเข้าใจ เร่งขับเคลื่อนในการจัดทำแผนงานต่าง ๆ ก่อนส่งมอบให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่จะเข้ามาบริหาราชการแผ่นดินต่อไป ขณะเดียวกันข้าราชการทุกคนต้องทำงานให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้งนี้ การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลได้มีการดำเนินงานทั้งงานระดับกระทรวง Function –Based และงานตามยุทธศาสตร์ หรืองาน Agenda – Based เช่น EEC เกษตรแปลงใหญ่ การบริหารจัดการน้ำ สาธารณูปโภค ตลอดจนการบูรณาการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การทำงานของ ป.ย.ป. มีคณะกรรมการ 4 คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ คณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ คณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อส่งต่อการทำงานไปสู่ระยะที่ 3 โดยดำเนินงานสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้งการสร้างบรรยากาศแห่งความปรองดองสามัคคีให้เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนำไปสู่การทำงานด้านการบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อเดินหน้าประเทศสู่อนาคต ลดความขัดแย้งทั้งวันนี้และวันหน้า อย่างไรก็ตามการดำเนินงานต่าง ๆ ของทุกหน่วยงานจะมีระบบกลไกการกำกับติดตามประเมินผลโครงการโดย PMDU ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็วมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเน้นย้ำให้หัวหน้าส่วนราชการฯ มีการสร้างการรับรู้กับสาธารณชนและสังคมรับทราบถึงประโยชน์ที่ได้รับเกี่ยวกับการดำเนินงานต่าง ๆ ของรัฐบาลชุดปัจจุบันซึ่งเห็นผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมในหลายเรื่อง รวมถึงแผนงาน/โครงการที่จะดำเนินการต่อไป โดยเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อต่าง ๆ ทั้ง เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย เอกสาร หนังสือต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจและพร้อมสนับสนุนให้ความร่วมมือในการดำเนินงานต่าง ๆ ของรัฐบาลทั้งในปัจจุบันและอนาคต เช่น เรื่องของการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ แผนการปฏิรูปประเทศ งาน Function ของกระทรวง/กรม การบูรณาการแผนงาน/โครงการ งบประมาณร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การรักษาความสงบเรียบร้อย การเตรียมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การขึ้นทะเบียนคนมีรายได้น้อย การทำธุรกรรมทางการเงินแบบใหม่ด้วยระบบพร้อมเพย์ การปลูกพืชเกษตรแปลงใหญ่ Agri – Map การแก้ปัญหา IUU การแก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย ICAO การป้องกันปราบปรามการทุจริต การนำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ฯลฯ รวมทั้ง การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ และการทำประชาพิจารณ์ก่อนดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมความพร้อมรองรับการดำเนินการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ทั้งเรื่องของโครงการก่อโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง เช่น รถไฟ ส่วนการดำเนินงานใดที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องก็ให้ส่งไปดำเนินการในระยะต่อไป
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำถึงการทำงานทั้งในระดับกระทรวง/กรม หรืองาน Function –และงานตามยุทธศาสตร์ หรืองาน Agenda จะต้องเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีนี้และต้องให้เกิดขึ้นให้ได้ในงบประมาณ 2561 และ 2562 เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนประเทศต่อไปได้ตามเป้าหมายที่กำหนด พร้อมกล่าวฝากว่าข้าราชการและหน่วยงานรัฐต้องทำงานด้วยความโปรงใส ตรวจสอบได้ ไม่ให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น อีกทั้งต้องรักษาศักดิ์ศรีของตนเองเพราะการทำงานของข้าราชการเป็นความหวังของประชาชนทั้งประเทศ รวมทั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่จะเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินในอนาคตด้วย
--------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th