วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2560) เวลา 13.30 น. นางเอียต โซเภีย (H.E. Mrs. Eat Sophea) เอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยพลโทวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวไทย รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้หารือกับเอกอัครราชทูตฯ ในวันนี้ พร้อมแสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ ที่ทำงานอย่างแข็งขันและมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์และผลักดันความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างไทยและกัมพูชา ตลอดระยะเวลาที่เอกอัครราชทูตฯ ดำรงตำแหน่งความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย – กัมพูชา ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก มีพลวัต และมีการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับ โดยเอกอัครราชทูตฯ แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรี องค์กร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ฝากความระลึกถึงไปยังนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และยืนยันความพร้อมที่จะเข้าร่วม การประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (JCR) ไทย – กัมพูชาครั้งที่ 3 ภายในปี 2560 นี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าและผลักดันความร่วมมือไทย – กัมพูชา นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเมื่อตุลาคม 2559 ด้วย ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตฯ ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตฯ เห็นว่า รัฐบาลสามารถเตรียมพร้อมเพื่อรับมือ และมีมาตรการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงความคืบหน้าในโครงการด้านความเชื่อมโยง อาทิ การขนส่งทางถนน ทางรถไฟ จุดผ่านแดนถาวร และพลังงาน โดยที่ผ่านมากระทรวงพลังงานของทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันและตกลงที่จะศึกษาความเป็นไปได้กรณีตั้งโรงไฟฟ้าในฝั่งกัมพูชา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ของกรณีการตั้งโรงไฟฟ้าในฝั่งไทย นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้เตรียมรถดีเซลราง ๔ ตู้เพื่อมอบให้แก่ฝ่ายกัมพูชาด้วย ด้านเอกอัครราชทูตฯ เห็นพ้องในความพัฒนาที่ก้าวหน้าระหว่างสองประเทศ และพร้อมที่จะผลักดันความร่วมมือให้ครอบคลุมทุกด้านต่อไป
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องว่า นอกเหนือจากความสัมพันธ์ภาครัฐที่อยู่ในระดับที่ดีมากแล้ว ความสัมพันธ์ในภาคประชาชนระหว่างไทย-กัมพูชาก็ยังมีความใกล้ชิดมากขึ้นด้วย โดยที่ผ่านมา สมาคมมิตรภาพไทย – กัมพูชา ได้จัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะยังรักษาความสัมพันธ์และสานต่อความร่วมมือให้ก้าวหน้าและยั่งยืนต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th