วันนี้ (16 ก.พ. 2560) เวลา 14.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล คณะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน (Honorary Investment Advisor: HIA) จำนวน 34 คน เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรี ในนามของรัฐบาล กล่าวต้อนรับคณะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน โดยยินดีที่ทราบว่า ผลการประชุมที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน ครั้งที่ 2 เช้านี้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจไทย รวมถึงมีแนวทางการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนของไทยให้ดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลพร้อมนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานต่อไป
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอบคุณคณะที่ปรึกษาที่เชื่อมั่นลงทุนในประเทศไทยมาโดยตลอด พร้อมย้ำว่ารัฐบาลเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งได้ดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมด้านการลงทุน และดำเนินมาตรการทุกอย่างด้วยความโปร่งใส มุ่งมั่นลดปัญหาอุปสรรค ทั้งนี้รัฐบาลเชื่อว่า การลงทุนจากต่างประเทศเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเสริมสร้างขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย
ทั้งนี้ ไทยมุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน โดยรัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างจริงจัง และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งการปฏิรูปเศรษฐกิจของไทยนี้ รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการลงทุนของภาคเอกชนทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ภาคเอกชนมีส่วนสาคัญยิ่งในการขับเคลื่อนการปฏิรูปเศรษฐกิจของไทย โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญ HIA ให้เข้ามาร่วมลงทุนในกิจการที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือลงทุนต่อยอดในอุตสาหกรรมที่ได้ลงทุนอยู่แล้ว โดยการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ให้มากขึ้น รวมถึงการวิจัยและพัฒนา ในสาขาต่างๆ ซึ่งแต่ละบริษัทมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว
นอกจากนี้ รัฐบาลยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือการฝึกอบรม เพื่อเพิ่มความรู้และประสบการณ์ อันจะนำไปสู่การส่งเสริมศักยภาพด้านความสามารถในการแข่งขันของแต่ละบริษัทเอง รวมถึงต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติจากทุกภูมิภาคเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้สามารถพัฒนามาได้จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาที่อุตสาหกรรมไทยรุดหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังว่า ขณะนี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาการปฏิรูปครั้งสำคัญของไทย โดยเฉพาะการปฏิรูปเศรษฐกิจ นักลงทุนจะเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาไปพร้อมๆกัน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th