วันนี้ ( 21 ก.พ. 60) เวลา 14.20 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงสิ่งที่นายกรัฐมนตรีฝากให้สื่อมวลชนและทุกภาคส่วนในสังคมกลับไปคิดเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทั้งเรื่องโรงไฟฟ้า การทุจริตคอร์รัปชั่น วัดพระธรรมกาย ฯลฯ ว่า หากคิดในมุมลบก็เป็นมุมลบ แต่หากคิดในมุมบวกก็คิดได้อีกอย่างว่า ประเทศของเรามีปัญหาดังกล่าวสะสมค้างคามาเป็นเวลานานตั้งแต่รัฐบาลในอดีตที่ปล่อยปละละเลยและเพิกเฉย ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้พยายามดำเนินการเร่งรัดทุกเรื่องที่เกิดขึ้นให้สำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Economics Corridor Development (EEC) รวมทั้งการปรับหลักสูตรการศึกษา การผลิตนักเรียนอาชีวะให้จบออกมาสามารถมีงานทำได้ทันทีและตรงกับความต้องการของโรงงาน การทำเกษตรแปลงใหญ่เพื่อลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร ทำให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งสามารถที่จะผลิตได้ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางโดยไม่พึงพ่อค้าคนกลาง เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลปัจจุบันพยายามเร่งรัดแก้ไขมาโดยตลอดซึ่งทำให้มีทั้งผู้ได้รับประโยชน์และเสียประโยชน์ จึงทำให้เกิดปัญหาและเรื่องต่าง ๆ ดังกล่าวขึ้นมาในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันกับทุกคนว่าไม่เคยท้อต่ออุปสรรคปัญหาที่เกิดขึ้น และขอให้คณะรัฐมนตรียึดแนวทางเดียวกันว่า คนเก่งมีมากแต่คนมีโอกาสมีไม่มาก วันนี้เราได้รับโอกาสจากประชาชนให้ดูแลปรับปรุงบ้านเมืองของเราที่มีปัญหามาช้านานให้ผ่านพ้นไปให้ได้ด้วยดี เพราะฉะนั้นทุกคนต้องตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดแม้จะมีเสียงคัดค้านในบางเรื่องแต่ก็ต้องรับฟังทุกฝ่ายเพราะคือความห่วงใยที่แต่ละคนมีต่อประเทศชาติ เมื่อรับฟังแล้วข้อมูลไม่ตรงกัน ทุกคนก็ต้องเปิดใจรับฟังข้อมูลโดยไม่เอาความหลงและความเชื่อที่ไม่เปิดรับข้อมูลใด ๆ มาเป็นตัวตั้งในการตัดสินใจ
--------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th