วันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2560) เวลา 14.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรและปิดการฝึกอบรมหลักสูตร ผู้บริหารงานด้านกฎหมายภาครัฐระดับสูง รุ่นที่ 5 จำนวนทั้งสิ้น 25 คน โดยมีผู้ร่วมงานประกอบด้วย นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาและตัวแทนผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการกฤษฎีกา
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตรนี้และแสดงความยินดีกับผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกคนที่ได้ผ่านการฝึกอบรมฯ ครั้งนี้ อีกทั้งยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดฝึกอบรมฯ ขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยอาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดอบรมไปบ้างตามความเหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน
รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2560) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบร่วมกันให้มีการเปิดหลักสูตรพิเศษหรือหลักสูตร ท๊อปดาวน์ โดยทางรัฐบาลต้องการผลสัมฤทธิ์ในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลักสูตรจะมีด้วยกัน 3 หลักสูตรที่จะจัดขึ้น ได้แก่ 1)หลักสูตรสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัด โดยเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเข้ารับการอบรม 2) หลักสูตรของผู้บริหารระดับสูง เช่น ปลัดกระทรวง และอธิบดีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน 3)หลักสูตรผู้ที่มีศักยภาพที่เตรียมพร้อมจะขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงหรืออธิบดีกรมต่าง ๆ โดยทั้ง 3 หลักสูตรนั้นจะเน้นในเรื่องของการทำเวิร์คช็อปหรืออบรมเชิงปฏิบัติการมากกว่าการเข้ารับการฝึกอบรมทั่วไปเท่านั้น และทั้ง 3 หลักสูตรนี้จะแยกกันเรียนโดยไม่ถือเป็นหลักสูตรดังที่เคยจัดกันมาในอดีต เพื่อจะให้ผู้บริหารระดับสูงคุ้นเคยกับการบริหารงานตามกฎหมาย มีวิสัยทัศน์ มีความคิดที่กว้างไกล และมีส่วนช่วยการขับเคลื่อนการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ได้อย่างฉับไว
รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าประเทศไทยในปัจจุบันนี้อยู่ในช่วงการปฏิรูปประเทศ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ ได้กำหนดให้มีการปฏิรูปประเทศใน 7 ด้าน คือ ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูปกฎหมาย ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปเศรษฐกิจ และปฏิรูปในเรื่องอื่น ๆ เช่นด้านสาธารณสุข และด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งกฎหมายถือเป็นหัวข้อหนึ่งที่สำคัญที่จะต้องมีการปฏิรูป โดยมีการกำหนดขอบเขตการปฏิรูปไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในมาตรา 77
นอกจากนี้ การออกกฎหมายต่าง ๆ เห็นควรให้ระมัดระวังในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ 5 หัวข้อหลักต่อไปนี้ (1)การใช้ระบบขออนุญาตเท่าที่จำเป็น (2)การใช้รูปแบบการทำงานของระบบคณะกรรมการ (3)การใช้ระบบดุลพินิจ (4)การใช้รูปแบบของกรอบระยะเวลาและ (5)การใช้เรื่องกรอบกำหนดโทษ เห็นควรงดการใช้โทษอาญาในกรณีประเด็นที่ไม่สมควรใช้แต่ควรใช้โทษทางแพ่งและทางคดีปกครองแทน
ตอนท้ายของการกล่าวปิดหลักสูตรฯ รองนายกรัฐมนตรีได้ขอให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าวทุกคนว่า ให้นำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงานที่ปฏิบัติงานอยู่ให้ทันต่อสถานการณ์และประสบผลสำเร็จตามเจตนารมณ์ของหลักสูตรนี้ต่อไป
พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพกับผู้รับการฝึกอบรมหลักสูตร ผู้บริหารงานด้านกฎหมายภาครัฐระดับสูง รุ่นที่ 5 ทุกคนพร้อมเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นที่ระลึกด้วยอัธยาศัยอันดี
*************************
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th