นายกรัฐมนตรีติดตามผลการดำเนินงานแปลงใหญ่ และศูนย์การเรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร เชื่อมโยงการทำเกษตรแปลงใหญ่ให้ครบวงจร

ข่าวทั่วไป Friday February 24, 2017 15:19 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีและคณะตรวจเยี่ยมติดตามการดำเนินงานแปลงใหญ่-ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ณ วิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวอินทรีย์บ้านอุ่มแสง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ระบุรัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบประมาณเพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับประชาชน

วันนี้ (24 กุมภาพันธ์ 2560) เวลา 13.40 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะตรวจเยี่ยมติดตามการดำเนินงานแปลงใหญ่ และศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ณ วิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวอินทรีย์บ้านอุ่มแสง ตำบลดู่ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมพบปะประชาชนและเกษตรกรที่ร่วมดำเนินงานแปลงใหญ่ตามนโยบายรัฐบาล พร้อมกับมอบเงินสนับสนุนสินเชื่อเกษตรแปลงใหญ่ให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่บริหารจัดการแปลงใหญ่ จำนวน 5 กลุ่ม รวม 54 ล้านบาท จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะร่วมเปิดโรงสีข้าวกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ศูนย์ส่งเสริมและผลิตภัณฑ์ข้าวชุมชนอุ่มแสง และร่วมกิจกรรมจัดทำปุ๋ยอินทรีย์กองใหญ่ ณ บริเวณนาข้าวฐานการเรียนรู้ เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว พร้อมรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินการแปลงใหญ่ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ในกลุ่มสินค้า 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว หอมแดง พริก ทุเรียน และกระเทียม จากนายบุญมี สุระโคตร ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ฯ

นายบุญมี สุระโคตร ประธานกลุ่มแปลงใหญ่บรรยายสรุปผลการดำเนินงานว่า กลุ่มแปลงใหญ่มีสมาชิก จำนวน 1,258 ครัวเรือน พื้นที่ปลูกข้าว 20,716 ไร่ มีคณะกรรมการเป็นผู้กำหนดทิศทางการผลิตและการจัดการตลาด มีคณะกรรมการกลุ่มย่อยอีก 5 กลุ่มนำแนวทางดังกล่าวไปวางแผนการผลิตในกลุ่มของตนเอง ซึ่งสมาชิกรายย่อยแต่ละกลุ่มจะมีการวางแผนร่วมกันผลิตตามชนิดพันธุ์และมาตรฐานการตรวจรับรองคุณภาพที่ได้รับ และนำมาแปรรูปพร้อมจัดจำหน่ายในตราสินค้า “ลุงบุญมี” มีสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศกว่า 80% มีการสั่งซื้อแบบ pre order กับตลาดยุโรปเป็นตลาดหลัก และอีก 20% เป็นการขายในประเทศผ่านการแปรรูปสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ข้าวอินทรีย์แปรรูป จมูกข้าวกล้องงอกพร้อมดื่ม ขนมที่ทำจากข้าวกล้องงอก เป็นต้น ซึ่งจากการรวมกันผลิตในลักษณะแปลงใหญ่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านรายได้ ทำให้เกษตรกรได้รับมูลค่าเพิ่มจากการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และพัฒนาคุณภาพจนได้มาตรฐานอินทรีย์รวมมูลค่า 48.7 ล้านบาทต่อฤดูกาล หรือประมาณ 38,738 บาทต่อครัวเรือน

ภายหลังการรับฟังบรรยายสรุป นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมความสำเร็จผลการดำเนินการแปลงใหญ่ พร้อมกล่าวว่ารัฐบาลตั้งเป้าหมายให้เกิดการรวมตัวกันของเกษตรกรแปลงใหญ่ 10 ล้านไร่ภายใน 5 ปี เน้นให้เกษตรกรทำการเกษตรแบบอินทรีย์ ลดการใช้ปุ๋ยเคมี และขอให้ทุกคนพัฒนาตนเองไปสู่การเรียนรู้แบบใหม่ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ใช้แอพพลิเคชั่นของรัฐบาลให้เกิดประโยชน์ในการค้นคว้าหาข้อมูล ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับประชาชน ขอให้ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และขอให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูก เน้นการทำเกษตรอินทรีย์ ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร สร้างรายได้ให้กับครอบครัว และประเทศชาติ พร้อมกับขอให้ทุกคนรวมตัวกันให้เกิดความเข้มแข็งด้วยตัวเองและคนในชุมชน ลดการช่วยเหลือจากภาครัฐ และนำศักยภาพของแต่ละท้องที่มาใช้โดยการร่วมมือกันผลักดันให้ประสบความสำเร็จตามศักยภาพของแต่ละท้องที่ พร้อมกับให้มีความซื่อสัตย์ ขยันอดทน มีความจงรักภักดี พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี และมีความดีอยู่ในตัวเอง

-------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ