วันนี้ (27 มีนาคม 2560) เวลา 14.10 น. ณ ห้องประชุมนาคราช ชั้น 1 อาคารศรีโคตรบูรณ์ มหาวิทยาลัยนครพนม จังหวัดนครพนม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประชุมหารือร่วมระหว่างคณะกรรมการ กรอ.ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (นครพนม สกลนคร มุกดาหาร) โดยมีคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารภาคเอกชนเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการเกษตรและอาหาร โดยที่ประชุมเห็นชอบหลักการเรื่องการเกษตรและอาหารดังนี้ 1.เห็นชอบหลักการเรื่องการส่งเสริมป่าเศรษฐกิจครอบครัว เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ 2 .เห็นชอบหลักการโครงการ Sanuk Colors Food Valley : Diversity of Functional Organic 3. เห็นชอบหลักการโครงการ Sanuk Farmer market และ 4. เห็นชอบหลักการโครงการนำร่อง "การบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน จังหวัดมุกดาหาร" โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องรับไปศึกษา พิจารณาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการ พร้อมให้จัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณอย่างละเอียด และให้คำนึงถึงข้อเท็จจริงในการลงทุน ว่าถ้ามีการลงทุนไปแล้วจะเกิดผลประโยชน์และมีความคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่ แผนงานโครงการไหนสามารถใช้งบประมาณของกระทรวง และกลุ่มจังหวัดได้ก็ขอให้ใช้งบประมาณดังกล่าว ส่วนไหนที่ไม่สามารถใช้งบประมาณที่มีอยู่แล้วได้ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนตามความเป็นไปได้ต่อไป
ส่วนเรื่องการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ประชุมเห็นชอบหลักการเรื่องการพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง และเห็นชอบหลักการโครงการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเส้นทางไทย ลาว เวียดนาม และจีน โดยมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬาเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของการดำเนินโครงการร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการบริหารจัดการน้ำ โดยที่ประชุมเห็นชอบหลักการโครงการพัฒนาและบินสำรวจแหล่งน้ำบาดาลด้วยวิธีทางธรณีฟิสิกส์เพื่อสนับสนุนแผนบริหารจัดการน้ำ ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมและเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการดำเนินการ
ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ขอให้ใช้จ่ายงบประมาณอย่างเชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของชาติทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ด้านความมั่นคง สร้างความสามารถในการแข่งขัน เสริมสร้างศักยภาพคน สร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมทางสังคม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และปรับสมดุลพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ พร้อมกับขอให้ปรับแนวคิด แผนการดำเนินโครงการให้เป็นปัจจุบันทันต่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อประสิทธิภาพและประโยชน์ของโครงการ
--------------------------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th