วันนี้ (3 เม.ย.60) เวลา 09.00 น. ณ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสำโรง (E15) (หน้าสถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ) จังหวัดสมุทรปราการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ จำนวน 1 สถานี จากสถานีสำโรง – สถานีแบริ่ง ซึ่งกรุงเทพมหานครเป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าดังกล่าวในปัจจุบัน สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการขนส่งสาธารณะ และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชนผ่านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการการแสดงผลการดำเนินงานก่อสร้างโครงการฯ การติดตั้งระบบเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ ณ ชั้น 2 สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสำโรง (E15) โดยมี พลเอก อนุพงษ? เผ?จินดา รัฐมนตรีว?การกระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว?การกระทรวงคมนาคม พลตำรวจเอก อัสวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พลเอก ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) คณะผู?บริหารบริษัทระบบขนส?งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน)(BTSC) ข้าราชการกรุงเทพมหานคร หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยว และสื่อมวลชน เข้าร่วมพิธีเปิด
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวฯ ว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธี เปิดเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ 1 สถานี จากสถานีสำโรง – สถานีแบริ่ง พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในด้านการคมนาคมและขนส่งที่ครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจและพื้นที่ชุมชน เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีและการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชนในทุกภูมิภาค ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงด้านการคมนาคมและขนส่ง เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในเมืองใหญ่ซึ่งทุกประเทศประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะ กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่มีประชากรแฝงซึ่งมาจากทั่วทุกภาคของประเทศเข้ามาอาศัยและประกอบอาชีพต่าง ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ อาชีพค้าขาย รับจ้าง และอาชีพอิสระ ฯลฯ จึงต้องมีการเตรียมการในเรื่องของการคมนาคมขนส่งต่าง ๆ รองรับ รวมถึงการให้บริการขนส่งทางรถไฟฟ้า โดยให้ประชาชนทุกกลุ่ม ตลอดจนผู้พิการและประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงบริการดังกล่าวอย่างทั่วถึง ซึ่งในส่วนของผู้มีรายได้น้อย รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาหาแนวทางถึงความเป็นไปได้ในการที่จะช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีโอกาสเข้าถึงบริการรถไฟฟ้าเช่นเดียวกับประชาชนกลุ่มอื่นด้วย เพื่อบรรเทาแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนดังกล่าวอีกทางหนึ่ง
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการก่อสร้างในปัจจุบันซึ่งมีราคาสูงว่า ต่อไปการก่อสร้างขอให้ใช้วัสดุภายในประเทศให้มากที่สุด ซึ่งประเทศไทยต้องมีการลงทุนและให้เกิดประโยชน์เชื่อมโยงกับธุรกิจการค้าอื่น ๆ ภายในประเทศ ทั้งสิ่งก่อสร้าง วัสดุ หรือชิ้นส่วนผสมต่าง ๆ เป็นต้น รวมทั้ง พิจารณาถึงแนวทางในการที่จะลดต้นทุนค่าก่อสร้างให้ได้มากที่สุดโดยคำนึงถึงความปลอดเป็นสำคัญ และให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าถึงบริการด้วย
สำหรับการเปิดเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ 1 สถานี จากสถานีสำโรง – สถานีแบริ่ง ในส่วนของกรุงเทพมหานครและเมืองบริวาร รัฐบาลได้ดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและรถไฟฟ้าเชื่อมกรุงเทพมหานครกับเมืองบริวาร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่อยู่อาศัย ทำงาน และสัญจรผ่านเส้นทางให้ได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็วและปลอดภัยในการใช้บริการระบบขนส่งมวลชนของรัฐ พร้อมเน้นย้ำว่าสิ่งที่ทุกหน่วยงานดำเนินการขอให้ทำให้ประชาชนเกิดความไว้วางใจและเกิดความเชื่อมั่น ซึ่งวันนี้เป็นการเปิดให้บริการ 1 สถานีในช่วงแรก และยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะสามารถเปิดให้บริการตลอดเส้นทางได้ ภายในปี 2561 ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรในเขตบางนาและสมุทรปราการ ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมและแหล่งชุมชนซึ่งมีประชาชนอยู่อาศัยอย่างหนาแน่นเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางราง ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ ตามแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ที่ใช้ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งการทำแผนงาน/โครงการของทุกหน่วยงานต้องสอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติด้วย
การเปิดบริการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ จำนวน 1 สถานี เป็นการพัฒนารถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเชื่อมโยงพื้นที่ระหว่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเป็นเส้นทางที่เชื่อมโยงการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ระหว่าง 2 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเชิงพาณิชย์และเป็นศูนย์กลางการพัฒนาแห่งใหม่ของฝั่งกรุงเทพใต้ และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนที่พักอาศัย ทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งผู้ที่ใช้เส้นทางสัญจร อย่างไรก็ตามในส่วนของการบริหารจัดการผลประโยชน์สองข้างทางรถไฟฟ้านั้น รัฐบาลจะบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้ง จะต้องมีการพัฒนาสองทางข้างทางของรถไฟฟ้าไปสู่พื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ซึ่งรวมไปถึงเส้นทางรถไฟต่าง ๆ รวมทั้งรถไฟทางคู่ด้วย เพื่อให้ประเทศมีรายได้อีกทางหนึ่งที่จะสามารถนำมาใช้ดำเนินการในการก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ต่อไปได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศว่า กรุงเทพมหานครใจดีให้ประชาชนได้ทดลองนั่งรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ จำนวน 1 สถานี ฟรีไปจนถึงสิ้นปี 2560 จากเดิมกรุงเทพมหานครให้ทดลองนั่งฟรีจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2560 และขอความร่วมมือประชาชนทุกคนได้ปฏิบัติตามระเบียบเข้าแถว ขณะก้าวขึ้นรถไฟฟ้า เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะดวกรวดเร็วในการเดินทางของประชาชน
ด้าน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ได้กล่าวรายงานผลการดำเนินการก่อสร้างว่า รฟม.ในฐานะหน?วยงานที่รับผิดชอบโครงการ ได?ดำเนินการตามแผนแม?บทระบบขนส?งมวลชนทางราง ในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ตั้งแต?ป?2555 เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชน ระหว?งกรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการ ระยะทาง13กิโลเมตร รวมจำนวน 9 สถานี ซึ่งแล?วเสร็จสมบูรณ?ตามแผนงานตั้งแต?ปลายป? 2559 ในส่วนของการเดินรถนั้น คณะกรรมการจัดระบบการจราจร (คจร.) ได?มีมติเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.58 เห็นชอบให? กทม. เป็นผู้เดินรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม?-คูคต และช?วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม2559 กทม. รฟม. และกระทรวงคมนาคม ได?ร่วมกันลงนามบันทึกข?อตกลงความร่วมมือ (MOU) มอบหมายให?กทม.เป็นผู?บริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ตามมติ คจร. ต?อไป
ขณะที่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานและความพร้อมในการเปิดทดลองให้บริการ ว่า กทม.ได?มอบหมายให? บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัดเข้ามาดำเนินงานติดตั้ง ระบบการเดินรถไฟฟ้า ประกอบด้วย ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบไฟฟ?และเครื่องกล รวมถึงระบบการสื่อสาร โดยได?เปิด ทดลองเดินรถไฟฟ้าเสมือนจริง จำนวน 1 สถานี จากสถานีแบริ่ง - สถานีสำโรง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2560 รวมถึงซักซ?อมการแก?ไขป?ญหาต่างๆ ในสถานการณ?ฉุกเฉิน เพื่อให?เกิดความพร้อมในการดูแลความปลอดภัย และให?บริการประชาชน ซึ่งวันนี้ กทม. มีความพร้อมที่จะเป?ดให?ประชาชนใช?บริการ เพื่อให?ประชาชนเดินทางได?อย่างสะดวก รวดเร็ว บรรเทาปัญหาการจราจร ในเขตบางนาและสมุทรปราการ ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมและแหล่งชุมชนที่พักอาศัยจำนวนมาก ทั้งนี้ กทม. จะสามารถเปิดให?บริการสถานีต่างๆ ตลอด เส้นทางเต็มระบบภายในป? พ.ศ. 2561
สำหรับเส?นทางเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง–สมุทรปราการ ได?เชื่อมต่อจาก สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สถานีแบริ่ง ไปตามแนวเกาะกลางถนนสุขุมวิท จนถึงจุดสิ้นสุดโครงการฯ บริเวณ หน้าสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง โดยครอบคลุมพื้นที่ 3 เทศบาล ของจังหวัดสมุทรปราการ ได?แก? เทศบาลสำโรงเหนือ เทศบาลนครสมุทรปราการและเทศบาลบางปูระยะทางรวม 13 กิโลเมตรมี จำนวน 9 สถานี ได้แก่ 1. สถานีสำโรง(E15) 2. สถานีปู่เจ้า (E16) 3. สถานีช้างเอราวัณ (E17) 4. สถานีโรงเรียนนายเรือ (E18) 5. สถานีปากน้ำ (E19) 6. สถานีศรีนครินทร? (E20) 7. สถานีแพรกษา (E21) 8. สถานีสายลวด (E22) และ 9. สถานีเคหะฯ (E23) โดยมีอาคารจอดแล้วจร (park & ride) บริเวณสถานีปลายทางสถานีเคหะฯริมถนนสุขุมวิท เนื้อที่ประมาณ 18 ไร? สามารถจอดรถได? 1,200 คัน และมีศูนย?ซ่อมบำรุงตั้งอยู?บริเวณหลังสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง รวมพื้นที่ประมาณ 123 ไร? มูลค่าการลงทุนทั้งโครงการฯ รวม 27,673 ล้านบาท แบ่งเป็นงานด้านงานโยธา โครงสร้างและ งานระบบราง 21,085 ล้านบาท และงานด้านติดตั้งระบบเดินรถ 6,588 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ตัดริบบิ้นเพื่อทำพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ จำนวน 1 สถานี จากสถานีสำโรง – สถานีแบริ่ง อย่างเป็นทางการ จากนั้น นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมห้องควบคุมการเดินรถ และร่วมโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ตู้ที่ 1 เดินทางจากสถานีสำโรง (E15) ไปยังสถานีแบริ่ง (E14) โดยมีสื่อมวลชนได้ร่วมขบวนโดยสารไฟฟ้าบีทีเอส ตู้ที่ 4 ไปยังสถานีแบริ่ง และเดินทางกลับสถานีสำโรงด้วย
------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th