ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบแนวทางการดูแลความปลอดภัยด้านการจราจรรองรับเทศกาลสงกรานต์ปี 2560 และมาตรการควบคุมความปลอดภัยในการขับขี่รถโดยสารสาธารณะ ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 และวันที่ 31 มกราคม 2560 โดยให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยของรถโดยสารให้ครอบคลุมในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถโดยสารขนาดใหญ่หรือรถสองชั้น ทั้งในด้านมาตรฐานของรถโดยสาร มาตรฐานการตรวจสภาพรถ การกำกับดูแลผู้ขับรถ และมาตรฐานการบำรุงรักษา ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนมีการสำรวจ และดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงอันตรายด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ที่ขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช. ได้มีคำสั่งที่ 14/2560 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2560 เรื่องมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ซึ่งเป็นการปรับปรุงกลไกการบังคับใช้กฎหมาย จึงกำหนดให้ “ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะขับขี่รถยนต์ และต้องจัดให้คนโดยสารรถยนต์รัดร่างกายไว้กับที่นั่งด้วยเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์ และคนโดยสารรถยนต์ดังกล่าวต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะโดยสารรถยนต์ด้วย”
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมโดยกรมการขนส่งทางบกยังมีมาตรการเข้มข้นกับรถโดยสารสาธารณะด้วยการตรวจความพร้อมของรถและพนักงานขับรถทุกสถานี และจุดจอดรถทุกแห่งทั่วประเทศ จำนวน 212 แห่ง ระหว่างวันที่ 5-24 เมษายน 2560 อีกทั้งได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาในการจัดส่งชุดปฏิบัติการร่วมตรวจสอบสภาพรถโดยสารสาธารณะและอุปกรณ์ทุกคันรวม 189 จุดทั่วภูมิภาค เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุที่มาจากความบกพร่องของรถโดยสารสาธารณะและผู้ขับโดยมีการตรวจจับความเร็วและตรวจสอบชั่วโมงการทำงานด้วยระบบ GPS ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนต่อการใช้บริการระบบรถโดยสารสาธารณะ ตลอดจนประชาชนสามารถติดต่อศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารสาธารณะ โทร 1584 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการติดตามประเมินผลการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 และวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ได้อนุมัติในหลักการโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินโดยให้กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 และการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ถูกต้องและทั่วถึง ทั้งนี้ ให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมอีกครั้งระหว่างวันที่ 3 เมษายน 2560 – วันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ณ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตลอดจนมีการประชาสัมพันธ์โครงการอื่น ๆ และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ด้วยโครงการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดหรือโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินผ่านสถาบันการเงินฯ วงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ขณะนี้มีประชาชนเข้าร่วมโครงการดังกล่าวกว่า 3 หมื่นรายแล้ว
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการควบคุมปริมาณการผลิตสินค้าเกษตรให้ตรงกับความต้องการของประเทศ ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีจากการที่ได้เดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์พิจารณาดำเนินการควบคุมปริมาณการผลิตสินค้าเกษตรให้ตรงกับความต้องการการบริโภคของประเทศในแต่ละช่วงเวลาและตรงกับสินค้าที่มีราคาสูง รวมทั้งให้มีการปรับเปลี่ยนเป็นเกษตรอินทรีย์ โดยเริ่มจากเกษตรแปลงเล็กไปสู่เกษตรแปลงใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าว ซึ่งเป็นสินค้าการเกษตรหลักของประเทศที่ขณะนี้ เกษตรกรขายข้าวเปลือกได้ราคาลดต่ำลงส่งผลให้รายได้ลดลงตามไปด้วย จึงเห็นควรเร่งขยายตลาดข้าวต่างประเทศ พร้อมลดรอบการปลูกข้าวในรอบที่สอง และผลักดันการใช้นวัตกรรมรวมทั้งเทคโนโลยีในการแปรรูปข้าวโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการในปี 2560 นี้แล้ว
ตอนท้ายของการประชุม ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการส่งเสริมและพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนในการนำความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดให้เกิดเป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ตลอดจนตอบสนองการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญก้าวหน้าสู่ Thailand 4.0 ที่มีประสิทธิภาพต่อไป
***************************
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th