วันนี้ (19 เมษายน 2560) เวลา 13.30 น. นายมารัต เยเซนบาเยฟ (H.E. Mr. Marat Yessenbayev) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคาซัคสถานประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีที่ได้ต้อนรับเอกอัครราชทูตฯ พร้อมขอบคุณสำหรับการปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย - คาซัคสถานตลอดช่วงเวลาเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีกับคาซัคสถานในโอกาสครบรอบ 25 ปีการประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 และแสดงความขอบคุณต่อสาส์นแสดงความเสียใจจากประธานาธิบดีคาซัคสถานถึงนายกรัฐมนตรีต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ รู้สึกเป็นเกียรติ พร้อมขอบคุณสำหรับความสนับสนุนจากรัฐบาลไทยตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง
ทั้งสองฝ่ายยินดีในโอกาสครบรอบ 25 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – คาซัคสถานในปี 2560 ซึ่งไทยถือว่า คาซัคสถานเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญและมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีกับคาซัคสถานในทุกสาขาเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ด้านเอกอัครราชทูตกล่าวว่า พร้อมที่จะสานต่อความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับคาซัคสถานที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2560 - 2561 และการทำหน้าที่ประธานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเดือนมกราคม 2561 พร้อมเชื่อมั่นว่าคาซัคสถานจะประสบความสำเร็จในบทบาทดังกล่าว
นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความยินดีกับคาซัคสถานที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Astana Expo 2017 โดยไทยจะมีการนำเสนอนิทรรศการด้วยการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในด้านพลังงานในงานดังกล่าว นอกจากนี้ภายในอาคารศาลาไทยจะนำเสนอ นิทรรศการภายใต้แนวคิด “การพัฒนาด้านพลังงานชีวภาพเพื่อมนุษยชาติ” ร่วมกับการจัดแสดงอาหารและคณะการแสดง ศิลปวัฒนธรรมของไทย ทั้งนี้ คาดว่าจะมีชาวไทยจำนวนมากเดินทางไปชมงาน Astana Expo 2017 ที่กรุงอัสตานา นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่าได้มอบหมายให้ผู้แทนระดับสูงจากทางการไทยเข้าร่วมพิธีเปิดงานวันเสมือนวันชาติไทย (National Day) ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 ที่คาซัคสถานด้วย
สำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพลังงาน คาซัคสถานเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยในภูมิภาคเอเชียกลาง ไทยเล็งเห็นว่ายังมีโอกาสอีกมากมายในการขยายความร่วมมือทางการค้าเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ แม้จะมีความท้าทายเกี่ยวกับระยะทางที่ห่างไกลระหว่างกัน แต่ไทยก็ประสงค์ที่ขยายความร่วมมือกับคาซัคสถานในด้านโลจิสติกส์ ซึ่งทั้งสองประเทศสามารถใช้ประโยชน์จากท่าเรือใกล้เคียงและเส้นทางขนส่งทางบก เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ ทางเศรษฐกิจและความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ขณะเดียวกัน ยังเล็งเห็นว่า ทั้งสองประเทศสามารถเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนกับเอเชียกลาง เพื่อเพิ่มพูนมูลค่าการค้าให้มากขึ้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ไทยพิจารณาคาซัคสถานในฐานะประเทศแหล่งพลังงานสำรองและภาคเอกชนของไทยมีความสนใจที่จะสำรวจโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจในคาซัคสถาน
ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงเรื่องการท่องเที่ยว โดยเอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวคาซัคสถานเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ชาวไทยก็เดินทางไปท่องเที่ยวในคาซัคสถานเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีที่ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวคาซัคสถาน พร้อมเชื่อว่าจะมีส่วนส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชนระหว่างสองประเทศ
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมความริเริ่มของคาซัคสถานในการจัดการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมืออิสลามด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 1 เดือนกันยายน 2560 ที่กรุงอัสตานา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างประเทศสมาชิกและประเทศผู้สังเกตการณ์ขององค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th