พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2560
วันนี้ (24 เมษายน 2560) เวลา 14.30 น. ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (เดิม) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี
เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2560 ซึ่งสรุปผลการประชุม ดังนี้
ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 จำเป็นต้องดำเนินการแผนและยุทธศาสตร์อวกาศแห่งชาติอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประเทศชาติขับเคลื่อนข้ามอุปสรรคไปสู่ความเป็นไปได้และมีแผนปฏิบัติการ กฎหมายรองรับอย่างชัดเจนและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยใช้ประโยชน์ในเรื่องดังกล่าวตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
จากนั้น ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการจัดทำร่างยุทธศาสตร์อวกาศแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 (National Space Strategy 2017-2036) ซึ่งเป็นกรอบในการจัดทำแผนปฏิบัติการภายใต้ยุทธศาสตร์และโครงสร้างองค์การอวกาศแห่งชาติ ทั้งนี้ จะมีการจัดทำแผนปฏิบัติการ 3 ระยะ ระยะที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี ระยะที่ 2 เป็นเวลา 5 ปี และระยะที่ 3 เป็นเวลา 20 ปี โดยที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ได้ดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสัมมนา “ยุทธศาสตร์อวกาศแห่งชาติ 20 ปี พ.ศ. 2560-2579” เมื่อวันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2560 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เพื่อเปิดเวทีรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมกำหนดแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการภายใต้ยุทธศาสตร์อวกาศเพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศด้านอุตสาหกรรมอวกาศ รวมทั้งมีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศในทุกมิติ เพื่อพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2560 โดยได้อนุมัติการดำเนินโครงการนี้ในวงเงินงบประมาณ 7,800 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (ปีงบประมาณ 2560-2564) โดยมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) ดำเนินโครงการฯ พร้อมให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 จากเดิมที่เป็นการลงทุนโดยภาครัฐ เพื่อการพัฒนาระบบสำรวจโลกของประเทศ ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นนสูง จากประเทศเจ้าของเทคโนโลยีแบบรัฐต่อรัฐ เป็นการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2553 และแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบของกฎหมายดังกล่าวต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการดาวเทียมสื่อสารภาครัฐ เพื่อความมั่นคง ซึ่งได้มีการจัดทำผลการศึกษาแนวทางการดำเนินงานด้านดาวเทียมสื่อสารภาครัฐ เพื่อความมั่นคง โดยเน้นศึกษาความคุ้มค่าของการใช้งานดาวเทียมสื่อสารภาครัฐ การสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โครงสร้างพื้นฐานและคุณลักษณะของบุคลากร หรือการยกระดับบุคลากรภาครัฐที่เหมาะสม ในการดำเนินกิจการดาวเทียมดังกล่าว ทั้งนี้ โดยมีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นหน่วยงานหลัก
ในการบูรณาการการใช้งานดาวเทียมฯ ให้มีประสิทธิภาพตามนโยบายของรัฐบาล
รวมทั้ง ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานการจัดหาระบบดาวเทียมสำรวจพร้อมระบบภาคพื้นดิน และระบบแอพพลิเคชั่นภูมิสารสนเทศ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2560 ที่ได้อนุมัติโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนาฯ ในวงเงินงบประมาณ 7,800 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ พ.ศ. 2560-2564 โดยในเดือนพฤษภาคม-เดือนมิถุนายน 2560 จะมีการสรรหาบุคลากรเข้าร่วมโครงการฯ จากหน่วยงานต่าง ๆ และในเดือนกรกฎาคม 2560 จะมีการลงนามก่อสร้างอาคารประกอบและทดสอบดาวเทียม เพื่อรองรับการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศไทยด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมอวกาศ
ตอนท้ายของการประชุม ได้พิจารณาผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการบริหารเอกสารข่ายงานดาวเทียมและการให้สิทธิในการใช้วงโคจรดาวเทียมของประเทศ ซึ่งที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง และมีความเห็นพ้องกันว่าเรื่องนี้มีความสำคัญและส่งผลกระทบต่อประชาชนในทุกภาคส่วนจึงมีมติเห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประชุมหารือกันในรายละเอียดมากยิ่งขึ้นแล้วจึงนำผลสรุปในเรื่องดังกล่าวมาเสนอที่ประชุมในคราวต่อไป
.................................................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th