วันนี้ (5 พฤษภาคม 2560) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ครั้งที่ 5/2560 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พลตรี คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้แถลงผลการประชุม ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมรับทราบความคืบการขับเคลื่อนความก้าวหน้าและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชนอย่างเป็นระบบ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น โดยที่ผ่านมาได้มีการแก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างบูรณาการด้วยความร่วมแรงร่วมใจของหลายหน่วยงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความมุ่งมั่นให้ทุกหน่วยงานได้ช่วยกันแก้ปัญหา ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย โดยทางสหภาพยุโรป (EU) จะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2560 ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมแผนการดำเนินงานต่าง ๆ รองรับไว้แล้ว เช่น การเข้าเป็นภาคี “UN Fish Stocks Agreement: UNFSA” และ การเข้าเป็นภาคี “South Indian Ocean Fisheries Agreement: SIOFA”
นอกจากนี้ ได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชกำหนดการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. .... และร่างพระราชกำหนดเรือไทย พ.ศ. .... รวมถึงการแก้ไขการค้ามนุษย์และแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการควบคุม การกำกับ และการดูแลแรงงานต่างด้าวในระบบที่มีอยู่มากกว่า 2 ล้านคนในประเทศไทย โดยกระทรวงแรงงานได้จัดทำบัตรอนุญาตทำงาน e-Workpermit ณ ศูนย์รับแรงงานเข้าและสิ้นสุดการจ้างงานในพื้นที่ 3 จุดได้แก่ พื้นที่จังหวัดตาก หนองคาย และสระบุรี ซึ่งบัตรดังกล่าวจะออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ในรูปแบบบัตรสมาทการ์ด พกพาได้ง่าย และสะดวกต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ผ่านทางสมาร์โฟนด้วยระบบคิวอาร์โค๊ต มีระบบป้องกันการปลอมแปลง ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ ตามความตกลง MOU เดิม เมื่อครบกำหนดตามใบอนุญาตก็จะต้องดำเนินการต่อใบอนุญาตแบบใหม่ เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าในการแก้ไขต่าง ๆ อาทิ การแก้ปัญหาการบินพลเรือน การแก้ปัญหาที่ดินที่ภูทับเบิก การฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง การจัดระเบียบริมแม่น้ำโขง และบริเวณการจราจรคับคั่งในกรุงเทพฯ โดยจะมีการจัดระเบียบอย่างเร่งด่วน รวมถึงการจัดทำโครงการแท็กซี่โอเค โดยการปรับปรุงกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกไม่เกิน 7 คน จำเป็นต้องติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินรถแบบ GPS หรืออุปกรณ์บันทึกถ่ายภาพในตัวรถที่จะทำหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูลผู้ขับขี่และพิกัดตำแหน่งความเร็วของรถ พร้อมส่งการแจ้งเตือนกรณีขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด รวมถึงส่งภาพนิ่งภายในรถตลอดจนข้อมูลกรณีขอความช่วยเหลือมายังศูนย์ข้อมูลแบบ Real Time และโครงการแท็กซี่วีไอพี (VIP) ซึ่งจะมีการปรับปรุงกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาต ตลอดจนการยกระดับมาตราฐานความปลอดภัยการบริการที่ยุติธรรม ให้เป็นมาตราฐานสากล โดยจะมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการปรับปรุงระบบ รวมทั้งมีการจัดสัมมนาและแถลงข่าวโครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจมาตราฐานการขับรถโดยสารสาธารณะให้ปลอดภัย เพื่อให้ผู้ขับขี่หรือผู้ประกอบการได้เตรียมตัวและทำความเข้าใจในการพัฒนาปรับปรุงการจัดระเบียบใหม่นี้ ซึ่งคาดว่ากฎกระทรวงดังกล่าวจะเริ่มประกาศและใช้ได้ภายในเดือนสิงหาคม 2560
*****************************
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th