วันนี้ (8 พฤษภาคม 2560) เวลา 13.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดตัวโครงการ “อีกนิดพิชิตเอดส์ : AIDS-Almost Zero” โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมกว่า 30 องค์กร เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 500 คน โดยโครงการดังกล่าวตั้งเป้าหมายในการแก้ปัญหาและยุติการแพร่ระบาดของการติดเชื้อเอชไอวีตามเป้าหมายของรัฐบาลในปี พ.ศ. 2573 หรือในอีก 14 ปีข้างหน้า รวมทั้งสร้างสังคมอุดมคติใหม่ในสังคม ไม่ให้เกิดการรังเกียจ หรือเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงานว่า ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นผู้รับผิดชอบงานด้านกระทรวงสาธารณสุข ตระหนักดีว่าปัญหาเอดส์หรือการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทยและในประชาคมโลกมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ โดยยังไม่มีประเทศใดในโลกที่จะสามารถแก้ไขให้หมดไปได้ วันนี้จึงถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทุกภาคส่วนในประเทศไทยจะได้มาร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ในการดูแล ป้องกัน แก้ไข รักษาและช่วยกันยุติเอดส์ให้ได้ภายใน 14 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้รับความช่วยเหลือทั้งทางด้านวิชาการและงบประมาณเพื่อการทำงานป้องกันเอดส์ โดยความร่วมมือจากโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) กองทุนโลก (Global Fund) และองค์กรระหว่างประเทศตลอดจนหน่วยงานอื่น ๆ ที่สนับสนุนให้ประเทศไทยรณรงค์เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง
รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำในตอนท้ายอีกว่ายังมีเทคโนโลยีและกระบวนการทำงานในรูปแบบใหม่ ๆ มีความคล่องตัวในการแก้ไขปัญหาเอดส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความยั่งยืนได้ดียิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ ต้องอาศัยภาคประชาสังคมให้เข้ามาช่วยเติมเต็มการทำงานของภาครัฐ โดยมีมูลนิธิเอดส์แห่งประเทศไทย เป็นองค์กรกลางในการทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อระดมสรรพกำลัง ทำงานเชิงป้องกัน เพื่อให้เข้าถึงผู้ที่ยังมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีให้เข้าสู่ระบบการรักษามากขึ้น หลังจากกล่าวเปิดงานฯ รองนายกรัฐมนตรีได้เดินชมนิทรรศการ “โครงการอีกนิดพิชิตเอดส์” ด้วยความสนใจ
อนึ่ง ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จด้านการจัดการปัญหาเรื่องโรคเอดส์ โดยเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา ไทยได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก ให้เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการลดอัตราการติดเชื้อฯ จากแม่สู่ลูก ต่ำกว่า 2% ถือเป็นประเทศแรกของเอเชีย และเป็นลำดับที่ 2 ของโลก อย่างไรก็ตาม เอดส์ยังไม่หายไปจากสังคมไทย จากสถิติในปี 2559 พบว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีชีวิตอยู่จำนวนถึง 427,800 คน มีผู้เสียชีวิตจำนวน 15,500 ราย และมีผู้ติดเชื้อฯใหม่จำนวน 6,300 คน ทั้งนี้จากการร่วมมือของภาครัฐ ภาคประชาสังคม และชุมชน ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา ถือว่าไทยประสบความสำเร็จทั้งด้านป้องกัน ซึ่งทำให้ไทยมีโอกาสที่จะยุติเอดส์ลงได้ ตามแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 หรืออีก 14 ปีข้างหน้า ทั้งนี้การยุติเอดส์มีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน หากรัฐบาลและทุกภาคส่วนร่วมลงทุน โดยใช้มาตรการที่มีประสิทธิผลดังกล่าวควบคู่กับมาตรการป้องกันเดิมที่มีอยู่ แต่ในปัจจุบัน งบประมาณของไทยในการแก้ไขปัญหาเอดส์มุ่งเน้นในการรักษาในระบบบริการเป็นหลัก และไม่เพียงพอกับการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ดังนั้นภาคประชาสังคมจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานป้องกันเอชไอวี(เอดส์) โดยส่วนใหญ่อาศัยงบประมาณจากต่างประเทศ จากแผนที่วางไว้ในการยุติปัญหาเอดส์และไม่ให้เกิดผู้ป่วยรายใหม่อีกภายในปี 2573 ภาคประชาสังคมกว่า 30 องค์กร ได้จับมือ จัดตั้งโครงการ “อีกนิดพิชิตเอดส์ หรือ AIDS-Almost Zero” เพื่อร่วมกันผลักดันการทำงานด้านการป้องกันเอชไอวีเอดส์ให้มีความต่อเนื่องยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากหน่วยงานใดมีความประสงค์และมีความสนใจที่จะเข้าเป็นหนึ่งในพลังขอการยุติเอดส์และการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีในไทย สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญในครั้งนี้ร่วมกัน ด้วยการบริจาคเงินได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด เลขที่บัญชี 319-295473-1 และ ธนาคารกรุงเทพฯ สาขา ซอยอารีย์ เลขที่บัญชี 127-499778-0 ชื่อบัญชี : AIDS ALMOST ZERO เพื่อมูลนิธิเอดส์แห่งประเทศไทย หรือติดตามข่าวสาร-ข้อมูลโครงการเพิ่มเติมได้ที่ www.aidsalmostzero.org หรือ facebook.com/AIDSALMOSTZERO
**********************************************
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th