วันนี้ (26 พ.ค. 60) เวลา 09.00 น. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “กระทรวงพาณิชย์กับการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจท้องถิ่น Local Economy 4.0” ณ อาคารอิมแพค เอ็กซิบิชั่น เมืองทองธานี โดยกล่าวถึงการให้ความสำคัญกับการสร้างความแข็งแรงของเศรษฐกิจฐานราก ในการส่งเสริมและสนับสนุนการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น (Local Economy) ให้ประชาชนมีรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค สร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง มีความมั่นคงและยั่งยืน โดยเชื่อมั่นว่าการสร้างฐานรากเศรษฐกิจจากท้องถิ่นจะช่วยเศรษฐกิจไทยให้รุดหน้า พร้อมเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ
โดยในปี 2560 ได้ดำเนินงานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นการขับเคลื่อนประเทศผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น
1) การพัฒนาตลาดในรูปแบบของตลาดต้องชม ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 100 แห่งทั่วประเทศ และวางเป้าหมายดำเนินการให้ครบ 200 แห่ง ในปี 2561
2) การนำร่องตลาดกลางสินค้าเฉพาะอย่าง เช่น ตลาดผลไม้ ตลาดประมง เพื่อเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว
3) การตั้งตลาดกลางข้าวสารในการจำหน่ายข่าวสารและดึงดูดผู้ซื้อจากที่ต่าง ๆ
4) การพัฒนาการค้าชายแดน
5) การดำเนินโครงการ MOC Biz Club ซึ่งเป็นมาตรการสนับสนุนและส่งเสริมต่อยอด SMEs ควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ทั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสเศรษฐกิจชุมชน หนุนให้เกิดการรวมกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกครบ 77 จังหวัด จำนวนกว่า 9,000 คน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการพัฒนาการขายผ่านออนไลน์เพื่อสร้างการตระหนักรู้และขยายช่องทางการตลาดให้สินค้าของผู้ประกอบการไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และสร้างมาตรฐานสู่ตลาดสากลซึ่งเป็นไปตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่เน้นการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน โดยเปลี่ยนเศรษฐกิจภูมิภาคให้เป็นระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง
“รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพราะจะเป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญให้เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง ดังนั้นจึงขอให้หน่วยงานปฏิรูปการทำงานใหม่ โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ให้ร่วมกันคิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการค้าการขายและเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ที่สำคัญคือการสร้างผู้นำชุมชน ซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ที่มา: http://www.thaigov.go.th