นายกรัฐมนตรีย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างชาวนารุ่นใหม่ เพื่อยกระดับเกษตรกรไทยให้ก้าวไปสู่เกษตรยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบและครบวงจร

ข่าวทั่วไป Friday June 2, 2017 15:37 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2560 เพื่อยกย่องประกาศเกียรติคุณ และเผยแพร่ผลงานดีเด่นให้สาธารณชนทั่วไปได้รู้จัก ยึดถือเป็นแบบอย่างในแนวทางการปฏิบัติงานด้านการเกษตร

วันนี้ (2 พฤษภาคม 2560) เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2560 เพื่อยกย่องประกาศเกียรติคุณ และเผยแพร่ผลงานดีเด่นให้สาธารณชนทั่วไปได้รู้จัก ยึดถือเป็นแบบอย่างในแนวทางการปฏิบัติงานด้านการเกษตร โดยมี นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกษตรกร ชาวนา องค์กรชาวนาที่ได้รับรางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวรายงานว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2552 กำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี เป็น "วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อกิจการด้านข้าวและชาวนาของประเทศไทย อีกทั้งเพื่อให้ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญของข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลักของคนไทยมาอย่างยาวนาน และเชิดชูเกียรติชาวนาในฐานะกระดูกสันหลังของชาติ ที่เป็นผู้ผลิตข้าวเลี้ยงประชาชนมาโดยตลอด รวมทั้งสร้างความภาคภูมิใจให้แก่เยาวชนผู้สืบทอดอาชีพการทำนาต่อจากบรรพบุรุษ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2560 จำนวน 25 ราย พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับเกษตรกรชาวนาไทยทุกคนที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมของไทยที่ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เกิดการขยายตัวและเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี เป็น “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” เพื่อรำลึกถึงความสำคัญของข้าวที่เป็นอาหารหลักของคนไทยที่มีความผูกพันกับการดำรงชีวิตของคนไทย ซึ่งข้าวไทยยังเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้ด้วยเอกลักษณ์และความชำนาญจากบรรพบุรุษสู่รุ่นปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ใช้ภูมิปัญญาและคุณสมบัติของข้าวไทยที่มีอยู่หลายชนิด ทำอย่างไรให้ข้าวเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก และจะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถดำรงความเป็นผู้นำในด้านการผลิต และการส่งออกข้าวที่มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในตลาดโลกมาอย่างยาวนาน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของชาวนาและองค์กรชาวนา ให้มีความเข้มแข็ง มีขีดความสามารถในการผลิตข้าวมากขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรไทยเปลี่ยนแปลงการทำการเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ เพื่อก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับการเกษตร และใช้แนวทางประชารัฐ เพื่อต้องการให้ประเทศไทยเป็นผู้นำข้าวในตลาดโลก โดยในปี 2560 รัฐบาลมีนโยบายจัดทำโครงการภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร วางแผนการผลิตข้าวให้มีคุณภาพและปลอดภัยได้มาตรฐาน สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วโลก ได้ดำเนินนโยบายจัดทำโครงการภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร วางแผนการผลิตข้าวให้มีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วโลก โดยเน้นการเพิ่มคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิต พร้อมกล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2560 รัฐบาลได้เร่งดำเนินการ 3 โครงการ ประกอบด้วย 1) โครงการส่งเสริมการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี 2) โครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และ 3) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรชาวนามีรายได้เพิ่มมากขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ อีกทั้ง ดูแลเกษตรกรไทยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทั้งนี้ เกษตรกรจะต้องมีการปรับตัวและใช้แนวทางของประชารัฐ สร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ ของตนเองให้ดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในการสร้างชาวนารุ่นใหม่ โดยสนับสนุนให้เกษตรกรได้ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการทำเกษตรกรรมและพัฒนาต่อยอดการเกษตรแบบครบวงจร เพื่อทดแทนชาวนาปัจจุบันที่มีอายุมาก และผลิตข้าวของประเทศไทยให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ข้าวไทย 5 ปี (2560-2564) นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้แบ่งเป็น 8 ด้าน ดังนี้ 1) ยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชาวนาและองค์กรชาวนา 2) ยุทธศาสตร์การควบคุมพื้นที่เพาะปลูกและปริมาณผลผลิตข้าวให้เหมาะสม 3) ยุทธศาสตร์การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว 4) ยุทธศาสตร์การยกระดับคุณภาพการผลิตและมาตรฐานสินค้าข้าว 5) ประเด็นยุทธศาสตร์เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ ด้านระบบการจัดการการส่งสินค้าหรือโลจิสติกส์ 6) ยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพและสร้างความเป็นธรรมในระบบการค้าข้าว 7) ยุทธศาสตร์สร้างค่านิยมการบริโภคข้าว 8) ยุทธศาสตร์วิจัย พัฒนา และสร้างนวัตกรรมข้าว โดยแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรดังกล่าวมีตั้งแต่การผลิต การประมาณการการผลิต การเก็บเกี่ยว การตลาด โดยเน้นเรื่องการผลิตที่มีคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ในการปลูกข้าว ซึ่งเป็นการกำหนดยุทธศาสตร์การผลิตและการค้าข้าว เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการผลิตและการตลาดให้สอดคล้องกัน และเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวนาให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สอดรับกับแนวทางการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและผู้นำเข้าจากทั่วทุกภูมิภาคของโลก รวมทั้งเป็นการยืนยันว่าประเทศไทยจะคงความเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกข้าวคุณภาพเยี่ยม และเป็นผู้สร้างความมั่นคงทางอาหารของโลกอย่างยั่งยืน

พร้อมกันนี้ ประธานคณะกรรมการกลางศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศกล่าวนำคำปฏิญาณเนื่องในโอกาสวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2560 จากนั้น นายกรัฐมนตรีมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทานแก่ประธานคณะกรรมการกลางฯ ต่อด้วยเดินเยี่ยมชมนิทรรศการเกี่ยวกับพันธุ์ข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าว

*************************

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ