วันนี้ ( 6 มิถุนายน 2560) เวลา 14.00 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พันเอกหญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชี้แจงถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรีตอบคำถามสื่อมวลชนเป็นลายลักษณ์อักษร ดังนี้
กรณีเรื่องการ เซ็ตซีโร่ กกต. ปปช. ทางฝ่ายการเมืองบางกลุ่มมองว่าเป็นความพยายามสืบทอดอำนาจของ คสช. ท่านนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอบว่า ทำไมถึงมอง คสช. ในแง่ที่จะสืบทอดอำนาจ มองได้อย่างไร ส่วน กกต. ก็มีหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง ประชาชนก็มีสิทธิที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งจะไปแก้ไขคะแนนเสียงได้อย่างไร กกต. หรือใครก็ไม่สามารถทำการสืบทอดอำนาจได้
กรณีปัญหาการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นถี่ โดยเฉพาะการก่อการร้ายในรูปแบบโลนวูล์ฟ หรือที่ผู้ก่อการร้ายไม่ได้เชื่อมโยงกับองค์กรขนาดใหญ่ ทำให้เกิดการป้องกันยาก รัฐบาลจะให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าไทยพร้อมรับมือ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในเมื่อผู้ถามก็รู้คำตอบอยู่แล้ว ในกรณีที่การก่อร้ายไม่ได้เชื่อมโยงกับองค์กรขนาดใหญ่ ป้องกันได้ยาก ซึ่งคำตอบมีอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว โดยทางรัฐบาลเอง ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกันและปรามปราบในทุกระบบ ต้องสร้างการเรียนรู้ภาคประชาชนและสังคมให้มีส่วนร่วม ช่วยเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นในสังคม ในส่วนการจัดหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ก็อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายความมั่นคงอยู่แล้ว ส่วนการจัดชื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เป็นการซื้อเพื่อทดแทนสิ่งที่ชำรุด ในการป้องกันภัยคุกคามทั้งรูปแบบเก่า และรูปแบบใหม่ ในส่วนภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ได้แก่ สงครามอิเล็กทรอนิกส์และภัยจากไซเบอร์
กรณีประเด็นเรื่องความไม่โปร่งใสใน ศอ.บต. ซึ่งล่าสุดพบว่า การติดตั้งเสาไฟโซล่าเซลล์ (Solar Cell) นั่นชำรุดใช้งานไม่ได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าได้ให้ทางฝ่ายความมั่นคง ศอ.บต. กอ.รมน. และหน่วยงานทุกหน่วยที่รับผิดชอบในการจัดหา การบำรุงรักษา และการใช้งาน ไปตรวจสอบว่ามีอะไรที่บกพร่องบ้าง แล้วก็ให้รายงานผลให้ทราบภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อจะได้เร่งดำเนินการแก้ไขโดยทันที่ โดยหลายหน่วยงานมีงบประมาณในการจัดหากล้อง CCTV อยู่แล้ว ส่วนบางพื้นที่ที่ซื้อมาก็เป็นกล้องที่เก่าใช้งานมาอย่างยาวนานซึ่งได้หมดอายุลง และก็มีหน่วยงานบางหน่วยที่ไม่มีงบประมาณในการดูแลรักษา ซึ่งเรื่องนี้ทางรัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการสำรวจ ซ่อมแซม และการจัดซื้อมาใหม่ทดแทนของเดิม โดยจะต้องระบุการจัดซื้อจัดหาที่ดูแลได้ครบวงจร ส่วนถ้าเกิดมีเจ้าหน้าที่คนใดบกพร่องจะต้องถูกลงโทษทางวินัย
สำหรับการปฏิรูปตำรวจมีหลายประเด็นซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ทั้งในเรื่องโครงสร้าง กระบวนการในการบริหารงานเป็นเรื่องที่จะต้องทำไปพร้อม ๆ กัน เพราะเป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญกำหนดระยะเวลาไว้ชัดเจน ส่วนเรื่องการทำงานของตำรวจนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รับทราบแล้วทุกเรื่อง
เรื่องทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้าอาวุธสงคราม นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอบว่า เป็นสิ่งที่กองทัพพยายามดำเนินการมาโดยตลอดที่จะไม่ให้ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ การค้าอาวุธสงคราม หรือกระบวนการต่าง ๆ เป็นเรื่องที่จะต้องกวดขัน และต้องตรวจตราอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผู้ร่วมขบวนการมีทั้งเจ้าหน้าที่ ประชาชน และคนไม่ดีต่าง ๆ ซึ่งใครที่ไปร่วมในขบวนการเหล่านี้จะต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
กรณีที่ถามว่ามีรายงานจากฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ว่าอาวุธสงครามที่จับได้มีแหล่งที่มาจากที่ไหน และมีการขโมยอาวุธในคลังแสงไปด้วยหรือไม่ นั้น ขณะนี้ตรวจสอบพบว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่ว่ามีการรั่วไหลออกจากคลังแสง หากตรวจพบก็จะต้องลงโทษสถานหนักทั้งทางวินัยและทางอาญา
ส่วนรถที่ใช้ขนอาวุธสงครามระบุว่าเป็นรถของทางราชการนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่ตรวจสอบพบไม่ใช่รถของทางราชการ แต่มีการสวมทะเบียนและติดป้ายกรงจักรเพื่อให้ผ่านด่านได้ เพราะฉะนั้น จึงได้เน้นย้ำทุกด่านตรวจให้เข้มงวดตรวจสอบรถทุกคันอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะมีตราของหน่วยงานราชการใด
กรณีที่ทหารได้ส่งระเบิดทางไปรษณีย์เอกชน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ให้หน่วยทหารตรวจสอบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการทหารบกก็ให้ติดตาม รวมถึงให้ผู้บัญชาการทุกหน่วยหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ และร่วมดำเนินการสืบสวนสอบสวนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
เรื่องการติดตามหาตัวคนร้ายกรณีระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี รัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ มีความกังวลกับทุกเรื่องทั้งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นและเกิดขึ้นแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากจะกำจัดให้ได้หมด เพราะฉะนั้นทุกคนในฐานะที่เป็นคนไทยจะต้องสร้างความเข้มแข็งไปด้วยกัน คนที่คิดว่าเป็นเรื่องของการสร้างสถานการณ์จากฝ่ายเดียวกัน อยากทราบว่าเอาอะไรมาคิด และคนคิดคนจ้างก็ต้องจ้างคนที่สามารถทำการได้ อาจจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือคนไม่ดีที่ไหนก็ได้ เพราะฉะนั้น ทหาร ตำรวจ ที่เขาจ้างมาอาจจะเป็นคนที่อยู่ในราชการหรือนอกราชการก็ได้ ซึ่งใครที่เป็นคนไม่ดีล้วนมีสิทธิ์ที่จะก่อเหตุการณ์เช่นนี้ได้ทั้งสิ้น
กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ขอให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบฐานะการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ประสบภาวะขาดทุน นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบว่า นายกรัฐมนตรีจะไม่รับเรื่องร้องเรียนจากบุคคลที่มาพูดแบบนี้ แต่จะรับเรื่องที่ฝ่ายกฎหมาย องค์กรอิสระ หรือกระบวนการยุติธรรม ส่งเรื่องมาให้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับเรื่องโดยตรงจากบุคคลพลเรือน โดยขอให้ไปดำเนินการเข้าช่องทางให้ถูกต้อง และขอให้รับฟังธนาคารแห่งประเทศไทยชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น
กรณีแนวทางการรวบรวมคำตอบต่อคำถาม 4 ข้อของนายกรัฐมนตรี นั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รวบรวมคำตอบ โดยขอให้ประชาชนไปให้ข้อมูลได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมซึ่งเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว เพราะเป็นการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนโดยตรง และมีวัตถุประสงค์ให้สังคมและประชาชนเรียนรู้เท่าทันทางการเมือง สร้างหลักคิดในเรื่องประชาธิปไตย และการเลือกตั้งให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แก้ไขปัญหาในอดีต วางรากฐานรัฐบาลในอนาคต เมื่อมีการเลือกตั้งจะได้เลิกมองถึงเรื่องการสืบทอดอำนาจ
กรณีการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเหตุใดจึงมีทหารเข้าไปเป็นบอร์ดจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา ก็มีปัญหาภายในบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ก็ได้มีการจัดให้ทหารเข้าไปนั่งสังเกตการณ์ ไม่ใช่ไปนั่งยกมือแสดงความคิดเห็น หลายเรื่องรัฐบาลก็ได้แก้ไขปัญหาไปแล้วโดยได้รับข้อมูลเป็นสัดส่วนของกรรมการในบอร์ดตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นการเอาทหารเข้าไปนั่งในบอร์ดจำนวนมาก แล้วตัดส่วนอื่นออกและเป็นบอร์ดกรรมการทั่วไปไม่ได้เป็นบอร์ดกรรมการเฉพาะทาง
***********************************************
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th