วันนี้ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางลีลา เค ปอนนัปปา (Mrs.Leela K Ponnappa) เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ภายหลังการต้อนรับ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและอินเดีย และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้มี การขยายความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสการเยือนอินเดียของนายกรัฐมนตรีในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
ในการนี้ เอกอัครราชทูตอินเดียได้กล่าวว่า รัฐบาลอินเดียมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสต้อนรับการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี และเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้มีการหารือร่วมกันระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ เพื่อการขยายความสัมพันธ์ในหลาย ๆ ด้านมากขึ้น โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตอินเดียยังได้สอบถามถึงสิ่งที่นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจเป็นพิเศษในการเยือนอินเดียในครั้งนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอบว่า อินเดียมีเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology-IT) ที่ก้าวหน้ามาก จึงมีความสนใจไปศึกษาการพัฒนาทางด้าน IT ของอินเดีย ซึ่งทราบว่ามีองค์กรวิจัยอวกาศ องค์กรด้านสารสนเทศและซอฟท์แวร์ ที่บังกาลอร์ นอกจากนี้ ประเทศไทยและอินเดียยังมีศักยภาพที่จะสามารถขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ในลักษณะของความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ การจัดตั้งเขตการค้าเสรี รวมถึงความร่วมมือหลายฝ่ายทั้งในลักษณะของภูมิภาค คืออาเซียนและอินเดีย โดยจะเชิญอินเดียเป็นประเทศคู่เจรจา (Dialogue Partner) รวมทั้งความร่วมมือระหว่างไทย พม่า และอินเดีย ในการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด ซึ่งเอกอัครราชทูตอินเดียได้กล่าวว่า มีความยินดีที่จะได้ต้อนรับการเยือนของนายกรัฐมนตรี และหวังว่าการเยือนในครั้งนี้จะช่วยกระชับและเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างสองประเทศได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
หลังจากนั้น เวลา 13.00 น ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า นาย H.M. G.S. Palihakkara เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ศรีลังกาและไทย มีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นมานานกว่าศตวรรษโดยเชื่อมโยงผ่านพุทธศาสนา และเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างกันให้มากขึ้น นายกรัฐมนตรีได้เสนอ การค้าแบบหักบัญชี (Account Trade) เพื่อให้ประเทศทั้งสองสามารถซื้อขายสินค้าที่ต้องการในช่วงเวลาที่เหมาะสม และยังจะเป็นแนวทางหนึ่งในการช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ประเทศ อาเซียนส่วนใหญ่ก็ให้ความสนใจรูปแบบการค้าดังกล่าวมากขึ้น
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย ได้แสดงความขอบคุณในความจริงใจของประเทศไทยในการให้ความร่วมมือด้านความมั่นคงและข่าวกรองอย่างดีมาโดยตลอด พร้อมทั้งชื่นชมนโยบายมุ่งสู่ตะวันตก (Look West Policy) ของไทย พร้อมกับได้กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียใต้ มีศักยภาพและสามารถเป็นทั้งตลาดการค้าและคู่ค้ากับไทยได้ และกล่าวเรียนเชิญนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนศรีลังกาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสเหมาะสมต่อไป
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 0 2629 9292, 0 2629 9491 โทรสาร 0 2281 4450--จบ--
-สส-
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและอินเดีย และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้มี การขยายความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสการเยือนอินเดียของนายกรัฐมนตรีในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
ในการนี้ เอกอัครราชทูตอินเดียได้กล่าวว่า รัฐบาลอินเดียมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสต้อนรับการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี และเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้มีการหารือร่วมกันระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ เพื่อการขยายความสัมพันธ์ในหลาย ๆ ด้านมากขึ้น โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตอินเดียยังได้สอบถามถึงสิ่งที่นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจเป็นพิเศษในการเยือนอินเดียในครั้งนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอบว่า อินเดียมีเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology-IT) ที่ก้าวหน้ามาก จึงมีความสนใจไปศึกษาการพัฒนาทางด้าน IT ของอินเดีย ซึ่งทราบว่ามีองค์กรวิจัยอวกาศ องค์กรด้านสารสนเทศและซอฟท์แวร์ ที่บังกาลอร์ นอกจากนี้ ประเทศไทยและอินเดียยังมีศักยภาพที่จะสามารถขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ในลักษณะของความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ การจัดตั้งเขตการค้าเสรี รวมถึงความร่วมมือหลายฝ่ายทั้งในลักษณะของภูมิภาค คืออาเซียนและอินเดีย โดยจะเชิญอินเดียเป็นประเทศคู่เจรจา (Dialogue Partner) รวมทั้งความร่วมมือระหว่างไทย พม่า และอินเดีย ในการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด ซึ่งเอกอัครราชทูตอินเดียได้กล่าวว่า มีความยินดีที่จะได้ต้อนรับการเยือนของนายกรัฐมนตรี และหวังว่าการเยือนในครั้งนี้จะช่วยกระชับและเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างสองประเทศได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
หลังจากนั้น เวลา 13.00 น ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า นาย H.M. G.S. Palihakkara เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ศรีลังกาและไทย มีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นมานานกว่าศตวรรษโดยเชื่อมโยงผ่านพุทธศาสนา และเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างกันให้มากขึ้น นายกรัฐมนตรีได้เสนอ การค้าแบบหักบัญชี (Account Trade) เพื่อให้ประเทศทั้งสองสามารถซื้อขายสินค้าที่ต้องการในช่วงเวลาที่เหมาะสม และยังจะเป็นแนวทางหนึ่งในการช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ประเทศ อาเซียนส่วนใหญ่ก็ให้ความสนใจรูปแบบการค้าดังกล่าวมากขึ้น
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย ได้แสดงความขอบคุณในความจริงใจของประเทศไทยในการให้ความร่วมมือด้านความมั่นคงและข่าวกรองอย่างดีมาโดยตลอด พร้อมทั้งชื่นชมนโยบายมุ่งสู่ตะวันตก (Look West Policy) ของไทย พร้อมกับได้กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียใต้ มีศักยภาพและสามารถเป็นทั้งตลาดการค้าและคู่ค้ากับไทยได้ และกล่าวเรียนเชิญนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนศรีลังกาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสเหมาะสมต่อไป
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 0 2629 9292, 0 2629 9491 โทรสาร 0 2281 4450--จบ--
-สส-