โฆษกฯ เผยการแก้ไข พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 14 ประเด็น ไม่กระทบต่อสิทธิ - สวัสดิการของประชาชน เตือนกลุ่มบุคคลล้มประชาพิจารณ์ เจอดำเนินการตามกฎหมาย

ข่าวทั่วไป Thursday June 22, 2017 15:16 —สำนักโฆษก

โฆษกฯ เผยการแก้ไข พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 14 ประเด็น ไม่กระทบต่อสิทธิ - สวัสดิการของประชาชน เตือนกลุ่มบุคคลล้มประชาพิจารณ์ เจอดำเนินการตามกฎหมาย

วันนี้ (22 มิถุนายน 2560) เวลา 12.45 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีการคัดค้าน การแก้ไข พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (30 บาทรักษาทุกโรค) ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายมีประเด็นที่แตกต่างจากฉบับเติมอยู่ 14 ประเด็น โดยไม่มีประเด็นใดส่งผลกระทบต่อสิทธิหรือสวัสดิการการดูแลประชาชนให้ลดน้อยลง ประชาชนทุกคนยังจะได้รับการบริการจากรัฐเหมือนเดิมตามกฎ กติกาของบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค โดยใน 14 ประเด็นมุ่งไปที่การแก้ไขการบริหารจัดการขององค์กร ทั้งกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

“อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผมได้ชี้แจงว่า เมื่อแก้ไขกฎหมายแล้วการซื้อยาของ สปสช. ในจำนวนมากจะได้ราคาที่ลดลง ซึ่งราคาที่ลดลงนี้จะนำไปสนับสนุนบทบาทภารกิจของเอ็นจีโอที่ร้องขอมา ส่งผลให้เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้โทรศัพท์มาคุยกับผม พร้อมเรียนเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรี โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าไม่ได้พูดว่า เมื่อซื้อยาที่ได้ลดราคาแล้วจะนำเงินไปสนับสนุนงานของเอ็นจีโอ ผมได้ฟังเรื่องนี้จากหลายคนเพราะเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ จึงจับประเด็นผิดพลาดของผมเอง จนทำให้คำนี้เหมือนจะออกมาจากปากของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และได้รับผลกระทบถูกกดดันพอสมควร จึงขออภัยที่ทำให้ได้รับผลกระทบด้วย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เวทีประชาพิจารณ์ที่มีปัญหานั้นกระทรวงสาธารณสุขจะเดินหน้าอย่างไร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยังไม่ได้ระบุถึงแนวทางต่อไป ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ และรัฐบาลเองก็ไม่ควรออกความคิดเห็นอะไรมากเพราะจะกลายเป็นการตั้งธงไว้ตั้งแต่ต้น จึงต้องรอให้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้คิดแก้ไขปัญหา ด้วยวิธีการของตัวเอง พร้อมทำความเข้าใจต่อประชาชน ซึ่งสุดท้ายรัฐบาลจะต้องฟังผลการทำประชาพิจารณ์ว่าความเห็นของประชาชนทั่วประเทศนั้นมีความเห็นใดบ้างที่จะต้องนำมาปรับแก้ให้ตรงกับความต้องการของประชาชน สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ส่วนการล้มเวทีประชาพิจารณ์ในหลายภาค ขอเรียนว่าเวลานี้เรากำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็พ การเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตย แม้ว่ารัฐบาลนี้จะไม่ใช่รัฐบาลประชาธิปไตย แต่เราพร้อมจะรับฟังความเห็น จึงขอวิงวอนไปยังทุกภาคส่วนว่าเมื่อเปิดเวทีประชาพิจารณ์หรือให้ข้อมูลอะไรก็แล้วแต่ ทุกคนมีสิทธิเห็นต่าง สามารถนำเสนอได้ในมุมของตัวเอง แต่ไม่ควรจำกัดสิทธิของผู้อื่นและคิดว่าการล้มเวทีประชาพิจารณ์ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรจะต้องยึดบรรทัดฐานของกฎหมายเป็นหลัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลคิดว่าที่พยายามล้มเวทีประชาพิจารณ์เป็นคนกลุ่มใด ใช่กลุ่ม NGO ที่เสียประโยชน์หรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่กล้าบอกว่าเป็นใคร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ในพื้นที่ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้แล้ว จึงขอฝากผู้ที่กระทำการว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินเนินการไปตามกระบวนการกฎหมาย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ